
วัดกันหมัดต่อหมัด...กองทุนไทยอ่อน...ทุบหุ้นเปรี้ยงๆ ตลอดเดือนกันยายน 8 วัน ขายสุทธิเกือบ 14,000 ล้านบาท จนทำให้ตลาดหุ้นตุปัดตุเป๋ จากดัชนีที่มาดีๆ ต้องชอกช้ำเสียทรง พาเอาชาวบ้านเสียหายกันเป็นแถบๆ สุดท้ายกลายเป็น “กองทุนขายหมู” ให้ฝรั่งที่ถอยรับมาตลอดได้ของที่ต้นทุนถูกไปสบายแฮ สุดท้ายต้องหันกลับมาสะสมซื้อหุ้นกันใหม่ด้วยต้นทุนราคาที่สูงขึ้นภายใต้มุมมองเชิงบวกว่า หุ้นจะยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อไปนับจากนี้จนสิ้นปี 2559
หลังจากที่ ตลาดหุ้นไทยเละตุ้มเป๊ะ ทะรูดทะราดลงมาอย่างหนักนับตั้งแต่เข้าเดือนกันยายนเป็นต้นมาเป็นเวลา 8 วันทำการ วันนี้กลายเป็นอีกบทเรียนหนึ่งให้รู้ว่า กองทุนไทย ยังตามนักลงทุนต่างชาติ ไม่ทัน แล้วก็ “ขายหมู” ให้เขาไปเสียจนได้
เมื่อต้นเดือน กันยายน กองทุน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในตลาดอย่างหนักว่า ทำตัวเป็นนักเก็งกำไรขาใหญ่ แต่เจ๋งกว่าตรงที่มีเงินหน้าตักเยอะ แล้วทุบหุ้นลงมาอย่างหนัก จนเปรียบว่ากองทุนเป็นกองโจรทุบหุ้น โดยไม่ได้ลงทุนอย่างมืออาชีพ ทั้งที่โดยฐานะของกองทุนนั้นคือ เป็นนักลงทุนสถาบันที่ไม่ได้เพียงแค่ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนที่ต้องมีหลักวิชาชีพและมีหลักเกณฑ์การลงทุนที่ดี และมีผลงานชนะตลาดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเท่านั้น แต่ต้องลงทุนในแบบที่สร้างความเชื่อมั่นเชื่อถือในฐานะเป็นผู้ที่ทำหน้าที่คอยรักษาเสถียรภาพของตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามวัตถุประสงค์ที่มีการผลักดันให้มีการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2535 อีกด้วย
นับจากวันที่ 1 กันยายน 2559 เป็นต้นมา กองทุนได้ขายหุ้นสุทธิแบบชิมลางก่อน 185 ล้านบาท จากนั้นก็ขายย่างหนัก ในวันที่ 2 และ 5 กันยายน 4,863 ล้านบาท และ 2,372 ล้านบาท ทำให้หุ้นปรับตัวลดลงอย่างแรง ด้วยความมึนงงของนักลงทุนทั่วไป พร้อมๆกับ ช่วงเวลาดังกล่าวก็มีการปล่อยข่าวที่เป็นข่าวโคมลอยไม่เป็นมงคลเข้ามาในตลาด ขณะที่มีปัจจัยที่ฉุดตลาดที่กังวลเรื่องเฟดขึ้นดอกเบี้ยแต่ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็นที่รุนแรงขนาดให้กองทุนไทยตื่นกลัวได้มากจนขายขนาดนี้ ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงเข้ามาซื้อหุ้นไทยสุทธิอยู่ ไม่ได้ตกอกตกใจเหมือนกับกองทุนไทยภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจัยเดียวกัน
ว่ากันว่า ส่วนหนึ่งที่กองทุนขายออกมาอย่างหนัก เพราะต้องการบริหารจัดการพอร์ทก่อนจะปิดงวดเดือนกันยายนนี้ ซึ่งตั้งแต่ปีใหม่ 2559 มา หุ้นไทยมีการปรับเดินหน้าขึ้นมาตลอดตั้งแต่ดัชนี 1,200 กว่าจุด เดินห้า หา 1,550 จุดเมื่อเดือนสิงหาคม และยังทำท่าว่าจะไปต่อหาจุดสูงสุดนิวไฮในรอบปีไปเรื่อยๆ มีหลายจังหวะที่มีแรงกดดันหุ้นเข้ามาแต่หุ้นก็แข็งไม่ตกลงมาสักที ในโอกาสจังหวะปัจจัยแวดล้อมที่กล่าวมาแบบนี้ กองทุนเลยได้จังหวะขายเทกระจาด เขย่าตลาดลงมา เพื่อจะเอาของ ทำให้หุ้นลดลงกว่า 110 จุดในเวลา 8 วัน(1-12 กันยายน)
ขณะเดียวกันผลพลออยได้ที่กองทุนจะได้อีกก็คือ สามารถระดมทุนจากบรรดา นักลงทุนพวกไวท์คลอร่าที่เห็นเป็นจังหวะหุ้นลงแรงๆ กระโจนเข้าซื้อกองทุน LTF กันยกใหญ่ เพราะตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากองทุนขาย LTF ไม่ค่อยเข้าเป้ากันเท่าไร ด้วยทิศทางหุ้นขาขึ้นมาตลอดปีขณะที่ยังมีข้อกังวลไม่เข้าใจด้วยว่า ซื้อกองทุน LTF ปีนี้แล้วจะต้องถือยาว จาก 5 ปีเป็น 7 ปีหรือไม่ แต่จากที่ไม่ค่อยมั่นใจเข้าซื้อ LTF ในช่วงที่ผ่านมาเมื่อเห็นหุ้นตกแรงเมื่อต้นเดือนกันยายนรอบนี้ จึงเข้ามาซื้อกองทุนกันยกใหญ่
แต่ปัญหาคือ หากคิดจัดระบบพอร์ตให้ไดของถูกจริง ตามที่ถูกนักลงทุนกลุ่มอื่นๆอ่านเกมของกองทุนเช่นนี้จริง แต่ความจริงก็คือมันไม่หมูเช่นนั้น เพราะผู้ที่มีสายป่านยาวกว่ากองทุน คือนักลงทุนต่างชาติ ....ดังนั้นเข้าจึงปล่อยให้กองทุนทุบหุ้นให้พอใจ ขายกันออกมาให้เท่าไหร่ ฝรั่งก็ทะยอยรับซื้อเท่านั้น ถอยซื้อลงไปเรื่อยๆ
ตลอดเวลา 10 วันทำการแรกของเดือนกันยายน (1-14 กันยายน) ที่กองทุนขายหุ้นสุทธิ 13,949 ล้านบาท ฝรั่งก็เก็บซื้อหุ้นมาตลอดทาง 13,505 ล้านบาท
หากเป็นเช่นนี้จริงเท่ากับ กลยุทธการลงทุนของนักลงทุนสถาบันของไทย อย่างพวกกองทุน คงจะมาผิดทางเสียแล้ว
เพราะหลังจากคลื่นลมสงบ ข่าวลือต่างๆหมดไป แม้แต่ข่าวเรื่องเฟดก็มาทำนองเดิม คือ ไม่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 20 กันยายนนี้ ฝรั่งก็ยังซื้อหุ้นไทยอยู่ เงินบาทไม่ได้ถูกเทขายทิ้งออกไปจากตลาด ดอกเบี้ยนโยบายของไทยก็ยังคงเดิม ปัจจัยเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง ปัจจัยที่มองกันว่า ในช่วงเวลาที่เหลือของปีหุ้นน่าจะเดินหน้าขึ้นได้ต่อไป ... กองทุนของไทยจึงต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนใหม่ และเริ่มหุ้นกลับมาซื้อหุ้นไทย 2 วันต่อเนื่อง วันที่ 13 และ 14 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่ หุ้นไทยพลิกจากลบกลับเป็นบวกขึ้นอย่างเร็วเป็นวีเชฟ ขึ้นมาจาก ที่ลงไปลึกหลุด 1,400 จุด พลิกฟื้นมาบวก 2 วันต่อกัน จนดัชนีปิดที่ 1,458 ในวันอังคารที่ 14 กันยายน แม้ว่าจะเป็นการขึ้นมาที่ไม่ผ่านจุดต้าน 1460 และ 1480 และอาจมีการปรับลดลงมาอีกรอบตามแนวเทคนิค แต่ส่วนใหญ่ก็ล้วนมองว่า ในที่สุดหุ้นน่าจะปรับขึ้นไปได้
เท่ากับกองทุนต้องหันกลับมาเป็นฝ่ายค่อยๆ ซื้อหุ้นเข้าพอร์ทในราคาที่สูงขึ้นๆ เพราะ ขายหมู ให้ฝรั่งไปเรียบร้อยแล้ว ดีไม่ดีช่วงต่อจากนี้ที่หุ้นเขย่าเพื่อพร้อมขึ้นรอบใหม่ กองทุนอยากซื้อเท่าไร ฝรั่งเขาก็จะขายของที่ต้นทุนถูกให้กองทุนได้สมใจพระเดชพระคุณ