top of page
image.png

การดีดตัวขึ้นยังคงเปราะบาง


ยืน 1,430 จุดให้ได้ก่อน! แม้ว่าในระหว่างสัปดาห์ SET จะมีการ Rebound กลับขึ้นมาได้บ้าง หลังจากที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หรือ Sell-Off ในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้า แต่ “นายหมูบิน” มองว่าการดีดตัวขึ้นของ SET ในระยะสั้นยังคงเปราะบางมากๆ โดยเฉพาะการที่ปัจจัยหนุนคือมุมมองของตลาดที่ดีขึ้นต่อโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่คุณ Lael Brainard หนึ่งในสมาชิก FOMC ที่มีสิทธิโหวตในปีนี้ออกมาส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่น้อยมากในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม 20-21 ก.ย.2559 ซึ่งความเชื่อของตลาดกับประเด็นดังกล่าวสะท้อนออกมาจากการที่หลังคุณ Lael Brainard ออกมาพูดทิศทางของ Fed Fund Futures สามารถตีความได้ว่าความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ก.ย., พ.ย. และ ธ.ค.2559 ลดลงจาก 30.0%, 34.5% และ 60.4% ตามลำดับในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 22.0%, 27.0% และ 57.4% ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี “นายหมูบิน” มองว่าการ Rebound ขึ้นมาของ SET ประเด็นที่ได้กล่าวไปข้างต้นอาจไม่สมเหตุสมผล และเป็นความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน โดยที่ในแง่ของปัจจัยที่กำหนดทิศทางตลาด ที่ “นายหมูบิน” มองไม่สมเหตุสมผลเลยว่าถ้าเราจะบอกว่าโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยที่ลดลงจากคำพูดของสมาชิกเฟด 1 ท่านอาจทำให้ SET พลิกกลับ หรือ Reversal ได้ เพราะคำถามคือการที่ SET ปรับตัวลงมาราว 150 จุด หรือ 10% ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น โดยเฉพาะการขายออกมาอย่างหนักของกองทุนในประเทศมาจากปัจจัยใด หรือมาจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดใช่หรือไม่ คำตอบคือ..ไม่น่าใช่

เนื่องจากโดยส่วนตัวของ “นายหมูบิน” มองว่าโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยที่ลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้ความเชื่อว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หายไป โดยความน่าจะเป็นในกรณีดังกล่าวยังคงสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับตัวเลขในวันที่ 1 ส.ค.2559 ที่ Fed Fund Futures ระบุว่าความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ก.ย., พ.ย. และ ธ.ค.2559 อยู่ที่ระดับ 18.0%, 19.8% และ 35.7% ตามลำดับเท่านั้น และโดยส่วนตัวของ “นายหมูบิน” เองยังคงประเมินว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หนึ่งครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค.2559 อยู่ดี

ขณะที่ในเชิงของแนวโน้มทางเทคนิค “นายหมูบิน” มองว่าสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่ใช่จุดที่ต้องมานั่งกลัวการตกรถ หรือซื้อไม่ทัน เพราะ “นายหมูบิน” มองว่าเรายังคงรอได้ เพื่อดูว่าสุดท้าย SET จะยืนเหนือ 1,430 จุดได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะถ้ายืนสร้างฐานไม่ได้การดีดตัวขึ้นมาในระยะสั้นก็คงเป็นเพียงแค่การ Technical Rebound เท่านั้น และการพักฐานในรอบนี้คงไม่ใช่เพียงแค่การ Pullback บนรูปแบบ Head and Shoulder Bottom แบบธรรมดาๆ แต่อาจเป็นคลื่นการปรับตัว หรือ Correction Phase ของกรอบใหญ่อย่าง 1,220-1,560 จุดก็ได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าวบริเวณ Fid Node ที่ 0.618 หรือ 1,350 จุด

(+/-) จะเป็นเป้าหมายการพักตัวที่น่าเข้าทยอยสะสมหุ้นต่อไป

ภาวะ Global Sell-Off กดดันตลาดหุ้นไทยระยะสั้น! : จากความกังวลกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการไม่ออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และความเป็นไปได้ที่สูงมากที่ธนาคารอังกฤษ (BOE) จะไม่มีมาตรการเพิ่มเติมออกมาเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นโลก และเอเชียถูกกดดันจากภาวะ Sell-Off ในระยะสั้นอีกครั้ง แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และการคงนโยบายของธนาคารกลางทั้ง 2 แห่งของยุโรปจะไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายของ “นายหมูบิน” ก็ตาม แต่แน่นอนว่า Global Fund Manager มองเป็นปัจจัยลบ และใช้เป็นโอกาสในการขายทำกำไรออกมา สะท้อนออกมาจากทิศทางของกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียที่เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลงชัดเจน โดยที่ในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าแม้ในตลาดหุ้นเกิดใหม่ หรือ Emerging Market จะยังคงมีกระแสเงินทุนไหลเข้าเป็นสัปดาห์ที่ 10 ติดต่อกันอีกราว 1.78 พันล้านดอลลาร์ แต่ตลาดหุ้นเอเชียซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดกลุ่มดังกล่าวกลับมีเงินทุนไหลเข้าชะลอตัวลงเหลือเพียงราว 10 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

ขณะที่ตลาดในกลุ่มลาตินอเมริกา และ EMEA แย่กว่านั้นคือมีเงินทุนไหลออกราว 60 และ 130 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ ในส่วนของตลาดหุ้นไทยนั้นแม้ว่านักลงทุนต่างชาติจะยังคงไม่ขายสุทธิหนักๆออกมา แต่สัญญาณการชะลอการเข้าซื้อเริ่มชัดเจนขึ้นในเดือน ก.ย.2559 (1-9 ก.ย.2559) โดยที่ยอดซื้อสุทธิต่อวันลดลงมาอยู่ที่ราว 517 ล้านบาทเท่านั้น เทียบกับเฉลี่ยราว 1,562 ล้านบาทต่อวันในเดือน ส.ค.2559 ซึ่ง “นายหมูบิน” ประเมินว่าแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่องของกองทุนในประเทศ และโอกาสที่จะเห็นการ Force-Sell ของโบรกเกอร์ออกมามากขึ้น หลังจากที่ SET ไม่สามารถกลับไปยืนเหนือ 1,480 จุดได้ จะส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการเข้าซื้อ หรือเข้ามารับหุ้นในตลาดหุ้นไทยออกไปก่อนในระยะสั้น

สอดคล้องกับการวิเคราะห์ในทางเทคนิค ที่ล่าสุด Indicator สำคัญอย่าง MACD ของดัชนี Accumulated Foreign Fund Flow ยังคงอยู่ในภาวะ Negitive Divergance กับดัชนี Accumulated Foreign Fund Flow อย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกันแล้ว สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสที่นักลงทุนต่างชาติจะชะลอซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยในระยะ 1 เดือนข้างหน้า

อย่างไรก็ดี “นายหมูบิน” ประเมินว่าตราบใดที่ MACD ของดัชนี Accumulated Foreign Fund Flow ยังคงไม่หมุนลงไปต่ำกว่า Zero Line และนักลงทุนต่างชาติยังคงไม่กลับมาขายสุทธิต่อเนื่องในระยะ 1 สัปดาห์เกิน 1.0 หมื่นล้านบาท การเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติจะเป็นเพียงแค่การชะลอการเข้าซื้อในระยะสั้นๆ หรือในกรณีเลวร้ายที่สุดจะเป็นเพียงแค่การขายปรับพอร์ตระยะสั้นเท่านั้น และบริเวณ 1,350 จุดน่าจะเป็นบริเวณที่ SET สามารถสร้างฐานได้ในระยะสั้น

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) : กรณีที่ SET ยังกลับไปปิดเหนือ 1,480 (+/-5) จุดไม่ได้ แนะนำ “ถือเงินสด” อีกครั้ง หรือ “Wait and See” ไปรอ “อ่อนตัวซื้อเก็งกำไร” ในกรอบ 1,350 (+/-5) จุด ในหุ้น PTT, PTTGC, TOP, BDMS, ROBINS, MINT, CPN, AAV, AOT, CK, SCB และ KBANK สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมาอยู่ที่ระดับ 75% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/moobin.stockmania และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ทาง FM 101 ทุกวันอาทิตย์ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ

 

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club

 
bottom of page