top of page

ขึ้นต่อน่าขายออกมาก่อน


เริ่มขึ้นแบบฝืนๆ !

ในระยะสั้นแม้ว่าในทางเทคนิคถ้าพิจารณาเฉพาะในส่วนของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ Moving Average ในรูปแบบของ Crossover จะพบว่าดัชนีตลาดหุ้นไทย หรือ SET ยังคงอยู่ในรูปแบบ หรือ Pattern ที่เรียกว่าสถานะ Golden Cross หรือดัชนี SET และเส้น Moving Average ยังคงเรียงตัวจาก Period ที่น้อยลงไปหามากครบทั้ง 5 ขั้น สอดคล้องกับในส่วนของ Trend Signal ที่วิเคราะห์ผ่าน Indicator สำคัญอย่าง Directional Index, RSI, Modified Stochastic และ MACD ยังคงอยู่ในสถานะของตลาดขาขึ้น หรือ Bullish ทั้งหมด รวมทั้งในส่วนของ Allocation/ Valuation ที่วิเคราะห์ผ่าน Equity Market Risk Premium และ Earnings Yield Gap ของตลาดหุ้นไทยยังคงสะท้อนให้เห็นถึงระดับในการยอมรับความเสี่ยงบนตลาดหุ้นไทยที่สูงมากของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าพิจารณาปัจจัยอื่นๆที่เริ่มมีสัญญาณที่ไม่สอดคล้องกันมาประกอบจะพบว่าการปรับตัวขึ้นต่อของ SET ในระยะสั้น โดยไม่การปรับตัวลงมาก่อนจะเริ่มมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนของปัจจัยที่มาจากแนวโน้มในทางเทคนิคของตลาดหุ้นโลก ที่ล่าสุดIndicator สำคัญอย่าง RSI และ MSCI ของดัชนีตลาดหุ้นสำคัญๆของโลก ทั้งในส่วนของดัชนี S&P500 ของสหรัฐ, SToxx50 ของยุโรป และ NIKKEI ของญี่ปุ่นต่างมีสัญญาณขาย หรือ Sell Signal ในรายวัน หรือ Daily ให้เห็นมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเดือน ม.ค.2560 เป็นต้นมา ขณะที่ในส่วนของ Momentum แม้ว่าถ้าพิจารณาผ่าน ADX, Open Interest ของ S50_Con และ Bollinger Bands Spread จะยังคงพบว่า Bullish Momentum ในระยะกลางยังคงแข็งแกร่ง หรือ Strength มากๆ

ประเด็นที่น่ากังวลคือการที่มูลค่าการซื้อขายเริ่มไม่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นต่อ สะท้อนออกมาจากการที่ AD_Line ของ SET ปรับตัวลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 25 วัน และการที่ Indicator อย่าง RSI และ Modified Stochastic อยู่ในระดับ Overbought ชัดเจน ดังนั้นแน่นอนว่าในเชิงของแนวโน้มในระยะกลาง 1-3 เดือน SET ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ไม่ยาก แต่การพักตัวลงมาก่อนในช่วงสั้นๆไม่เกิน 1 เดือนก็น่าจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นกัน ดังนั้น “นายหมูบิน” ยังคงยืนยันว่าแม้ SET จะยืนแข็งได้ไม่ลงหนักๆในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จะไปได้ก็คงไม่ไกล โดย “นายหมูบิน” มองแนวต้านไว้แถวๆ 1,580 (+/-5) และ 1,610 (+/-5) จุด และยังคงให้น้ำหนักว่า SET อาจจะต้องสร้างฐานให้แฟนๆได้เก็บของกันก่อนในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 นี้ โดย “นายหมูบิน” ให้กรอบในการเก็บของในช่วงไตรมาสที่ 1 ของ SET ไว้ที่ 1,530-1,500 จุด

SET อาจจบเดือน ม.ค. แบบไปไหนได้ไม่ไกล ถ้าพิจารณาจากปัจจัยในเชิงของ Seasonality หรือสถิติการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์เสี่ยงของโลกในเดือน ม.ค. ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2555-2559) จะพบว่าการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นโลกมักไม่คึกคักเท่าไรนักในช่วงเดือนแรกของแต่ละปีเช่นเดียวกับทิศทางของราคาน้ำมันดินโลก สะท้อนออกสถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่พบว่าดัชนี MSCI World ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -0.35% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI แย่กว่าโดยให้ผลตอบแทน -2.89% โดยที่ในทางสถิติดูเหมือนว่าทองคำจะเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดในเดือน ม.ค. ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาราว 5.54% ซึ่งในปีนี้มีโอกาสซ้ำรอยทางสถิติค่อนข้างมาก เนื่องจากในช่วงครึ่งแรกของ ม.ค. 2560 ราคาทองคำขยับขึ้นมาแล้วราว 4.60%

ทั้งนี้ถ้าแยกพิจารณาตลาดหุ้นโลกเป็นรายภูมิภาคจะพบว่าทั้งในส่วนของสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Market) ต่างมีสถิติผลตอบแทนที่ซบเซาในเดือน ม.ค. ทั้งสิ้น โดยที่ดัชนี S&P500, MSCI Europe, NIKKEI และ MSCI Emerging Market ให้ผลตอบแทนเดือน ม.ค. เฉลี่ย -0.47%, +1.08%, -0.77% และ -0.22% ตามลำดับในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีแม้ว่าในส่วนของตลาดหุ้นไทย หรือ SET เมื่อพิจารณาจากสถิติในช่วงเวลาเดียวกันจะมีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ดีกว่ามากราว +3.27% เทียบกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI Asia ex Japan และ FTSE ASEAN 40 ที่ราว +0.39% และ -0.02% ตามลำดับ แต่ผลตอบแทนที่ดีกว่าโดยเฉลี่ยของ SET ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เกิดจากการปรับตัวลดลงโดยเฉลี่ยราว -1.86% ในเดือน ธ.ค. ของปีก่อนหน้า ขณะที่ในปีที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นสวนทางกับสถิติราว 2.17% ในเดือน ธ.ค. 2559 เมื่อประกอบกับสัญญาณในเชิงเทคนิคที่เริ่มขัดแย้งกัน ส่งผลให้ “นายหมูบิน” มองว่าโอกาสที่ SET จะปรับตัวขึ้นส่วนทางกับตลาดหุ้นโลก และภูมิภาคในเดือน ม.ค. 2560 นี้ยังคงเป็นเรื่องที่ยาก หรือถ้าจะฝืนขึ้นต่อก็จะเป็นความเสี่ยงสำหรับการลงทุนในระยะสั้นๆได้

ฝรั่งยังไม่ขายแต่เน้นหุ้นกลาง-เล็ก หรือปันผลสูง ! อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่อยู่บนปัจจัยบวกในปัจจุบันคือการที่ SET ยังคงถูกสนับสนุนด้วยการกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเป็นหลัก และทิศทางดังกล่าวยังคงมีโอกาสคงอยู่ต่อไป หลังจากที่ล่าสุดระดับของ Accumulated Foreign Fund Flow ยังคงแกว่งตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 25 วันได้ ขณะที่ทิศทางของค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่าเหนือกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 25 วัน และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ผ่านดัชนี U.S.Dollar Index กลับมาอ่อนค่าต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 25 วันเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนทิศทางดังกล่าวของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดีประเด็นที่น่ากังวลคือเมื่อพิจารณาผ่าน Relative Strength จะพบว่าแม้ตลาดหุ้นไทยในระยะ 1 เดือนจะยังคง Outperform ตลาดหุ้นโลกที่มีตลาดหุ้นสหรัฐเป็นตัวแทน หรือ Proxy แต่ถ้าเทียบกับตลาดหุ้นอาเซียนจะพบว่า SET มีการเคลื่อนไหวที่ Underperform ดัชนี FTSE ASEAN 40 ชัดเจน

ขณะที่พิจารณาจากโครงสร้างของตลาดหุ้นไทยเอง จะพบว่าหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่ม SET50 และ SET100 ยังคงมีทิศทางที่ Underperform ตลาดหุ้นไทย หรือ SET ในภาพรวมอยู่ สะท้อนให้เห็นว่าทิศทางของตลาดหุ้นไทยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ถูกผลักดันด้วยหุ้นในกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก และหุ้นในกลุ่มเงินปันผลสูง ซึ่งน่าจะเป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติมากที่สุด สะท้อนออกมาจากระดับ Relative Strength ของดัชนี MAI และ SETHD ที่ Outperform เมื่อเทียบกับ SET ชัดเจน ทั้งนี้ความเสี่ยงคือการที่ SET ถูกผลักดันด้วยการเก็งกำไรในหุ้นขนาดกลาง-เล็กเป็นหลัก จะเป็นความเสี่ยงอย่างมากในกรณีที่ตลาดเริ่มเข้าสู่การพักฐานระยะสั้น และในภาวะที่นักลงทุนในตลาดเริ่มกลับมาถึงคุณภาพของบริษัทขนาดกลาง-เล็กของตลาดหุ้นไทย จากประเด็นที่ผิดนัดชำระหนี้ที่เริ่มมีให้เห็นของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลาง-เล็กของไทย

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) กรณีที่ SET ยังคงปิดเหนือ 1,550 (+/-5) จุดได้ แนะนำ “อ่อนตัวซื้อเก็งกำไร” ในหุ้น PTT, PTTGC, TOP, BDMS, ROBINS, MINT, CPN, AAV, AOT, CK, SCB และ KBANK ขณะที่กรณีตรงข้ามที่ SET กลับมาปิดต่ำกว่า 1,550 (+/-5) จุดอีกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยง ควรกลับมา “ถือเงินสด” หรือ “Wait and See” ไปก่อน สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไว้ที่ระดับ 50% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/moobin.stockmania, e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com และ dokbiaonline.com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ทาง FM 101 ทุกวันอาทิตย์ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ

 

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club

0 views
bottom of page