top of page
image.png

แกว่งขึ้นต่อกับ Seasonality ได้


ภาพใหญ่หนุนให้ไปต่อ ! ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นมาหลายวันโอกาสที่จะมีการพักตัวลงในช่วงสั้นๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และตลาดหุ้นไทยระหว่างสัปดาห์อาจมีพักมีถอยตามเขาไปด้วยก็ยิ่งไม่แปลก แต่ในภาพใหญ่ “นายหมูบิน” ยังมองแนวโน้มของ SET ในระยะไม่เกิน 1 สัปดาห์ยังคงอยู่ในรูปแบบของการแกว่งตัวขึ้นต่อได้ หรือ Sideway Up เพราะนอกจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเมืองของสหรัฐฯ ที่ลดลงแล้ว ล่าสุดดูเหมือนว่านโยบายการเงินของประธานาธิบดีใหม่ของสหรัฐฯ จะกลับมาสร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และโลกอีกครั้ง

ทั้งนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น สะท้อนออกมาจากผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนสหรัฐจาก AAII ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (2-8 ก.พ.2560) ที่พบว่าสัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเป็นขาขึ้น หรือ Bullish เพิ่มขึ้น 3.0% สู่ระดับ 35.8% พลิกกลับมาสูงกว่าสัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นขาลงแล้ว หรือ Bearish ที่ลดลง 6.5% สู่ระดับ 27.7% อีกครั้ง

ล่าสุดถ้าพิจารณาจากทิศทางของกระแสเงินทุนจะพบว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-10 ก.พ.2560) ตลาดหุ้นเอเชียมีกระแสเงินทุนกลับมาไหลเข้าอีกครั้งถึง 216 ล้านดอลลาร์ โดยที่ตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP มีกระแสเงินทุนไหลเข้าเช่นกันราว 79 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตลาดหุ้นไทยมีเงินทุนไหลเข้ามากที่สุดราว 44 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียมีเงินทุนไหลเข้า 38 ล้านดอลลาร์ และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์มีเงินทุนไหลออก 3 ล้านดอลลาร์

ดังนั้นในภาวะที่ตลาดหุ้นโลกกำลังอยู่ในช่วงของการปรับราคาเพื่อให้สะท้อนความเสี่ยงใหม่ “นายหมูบิน” ประเมินว่าในระยะสั้นตลาดหุ้นภูมิภาค และไทยจะได้รับผลกระทบด้านบวกดังกล่าวมากกว่าตลาดหุ้นกลุ่มพัฒนาแล้ว (Developed Market) อย่างตลาดหุ้นยุโรป, ญี่ปุ่น และสหรัฐ ขณะที่กระแสเงินทุนไหลเข้ายังเป็นปัจจัยหนุนการดีดตัวขึ้นของ SET ต่อเนื่อง สะท้อนออกมาจากการที่ตั้งแต่ต้นปี 2560 นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิเข้ามาทั้งในตลาดหุ้นของไทยราว 5.2 พันล้านบาท (สิ้นสุด 10 ก.พ.2557)

นอกจากนี้การที่ล่าสุดดัชนี VIX Index ของสหรัฐ และ HSI VIX Index ของฮ่องกงปรับตัวลดลงตั้งแต่ต้นปี 2560 ราว 21% และ 17% YTD และตราบใดที่ VIX Index (ล่าสุดอยู่ที่ 11.1) และ HSI VIX Index (ล่าสุดอยู่ที่ 14.0) ยังคงแกว่งตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 75 วันที่ 12.5 และ 15.7 แนวโน้มขาขึ้นของตลาดหุ้นโลก และภูมิภาคจะยังคงอยู่ต่อไป

ช่วงเวลาดีๆ ของหุ้นไทย ! : นอกจากสถิติในช่วง10 ปีที่ผ่านมา (2550-2559) ที่สะท้อนชัดเจนว่าในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. เป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยมากที่สุด เฉลี่ย 6.0, 14.1 และ 3.3 พันล้านบาท ด้วยระดับ Net Buying Percentage ที่ 60%, 90% และ 60% ในเดือน ก.พ., มี.ค. และ เม.ย. ตามลำดับแล้ว ในเชิงฤดูกาล หรือ Seasonality ถ้าพิจารณาจากสถิติในช่วงเวลาเดียวกันของ SET จะพบว่าโดยเฉลี่ยในช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. ก็ถือเป็นช่วงที่ SET ทำผลงานได้ดีที่สุดในแต่ละปีเช่นกัน โดยมีอัตราการปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 3.45%, 2.01% และ 2.99% ในแต่ละเดือนตามลำดับ โดยเฉพาะในเดือน ก.พ และ เม.ย. มีระดับ Winner Percentage สูงถึง 90% และ 80% ตามลำดับ ขณะที่ในเชิงของ Momentum พบว่าระดับของ Open Interest บน SET50 Futures ซึ่ง “นายหมูบิน” ค่อนข้างให้น้ำหนักกับทฤษฎีการวิเคราะห์ตัวแปรดังกล่าวค่อนข้างมาก

ล่าสุดยังคงสนับสนุนแนวโน้มเดิม หรือ Existing Trend ที่เป็นขาขึ้นของ SET50 สอดคล้องกับการที่ล่าสุด SET50 ยังคง Outperform เมื่อเทียบกับ SET ตรงข้ามกับ MAI ที่กลับมา Underperform สะท้อนให้เห็นว่าหุ้น Market Cap ขนาดใหญ่สนับสนุนทิศทางของ SET ในระยะสั้นมากกว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กชัดเจน ทำให้ในภาพรวมภายใต้เงื่อนไขที่ SET ไม่ถอยตัวลงมาปิดต่ำกว่า 1,580 จุดอีกครั้ง “นายหมูบิน” ยังคงน้ำหนักกับโอกาสที่ SET จะแกว่งขึ้นเหนือ 1,600 จุดได้ในระยะไม่เกิน 1 สัปดาห์ข้างหน้าครับ

แม้ว่าแนวโน้มระยะสั้นของเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ที่สะท้อนออกมาผ่าน Barometer ยังคงอยู่ในโซนสีแดง หรือ Euphoric สะท้อนว่ามีโอกาสชะลอการลงทุนต่อไปในระยะสั้น จนกว่าจะกลับเข้าสู่พื้นที่ปกติ หรือ Neutral แต่ในเชิงของ Downside Risk ก็ยังคงยังไม่เห็นสัญญาณว่าต่างชาติจะออกจากตลาดหุ้นไทยจริงจังเช่นกัน สะท้อนออกมาจากการที่ดัชนี Accumulated Foreign Fund Flow ยังคงแกว่งตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 25 วันได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐยังคงสนับสนุนในต่างชาติอยู่ต่อ ดังนั้น “นายหมูบิน” ยังคงยืนยันมุมมองเดิมว่าการยุบการย่อตัวลงในช่วง 1 เดือนที่จะถึงนี้ของ SET จะเป็นโอกาสในการเข้าทยอยสะสมหุ้นในกลุ่ม Market Cap ขนาดใหญ่ใน SET50 หรือ SET100 เพื่อลุ้นการกลับเข้าซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติอีกครั้ง

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) : กรณีที่ SET ยังคงปิดเหนือ 1,580 (+/-5) จุดได้ แนะนำ “อ่อนตัวซื้อเก็งกำไร” ในหุ้น PTT, PTTGC, TOP, KBANK, SCB, STEC, CK, SCC, LH, SIRI, INTUCH และ ADVANC

ขณะที่กรณีตรงข้ามที่ SET กลับมาปิดต่ำกว่า 1,580 (+/-5) จุดอีกครั้ง เพื่อลดความเสี่ยง ควรกลับมา “ถือเงินสด” หรือ “Wait and See” ไปก่อน สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไว้ที่ระดับ 50% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/moobin.stockmania และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆ ยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ทาง FM 101 ทุกวันอาทิตย์ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ

***************************************************************

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club

 
bottom of page