top of page
image.png

“Start Up Market” เพื่อธุรกิจ Start Up...ตลาดระดมทุนอินเทรนด์


ตลาดหลักทรัพย์ฯ ผลักดันการช่วยเหลือธุรกิจน้องใหม่ที่ถูกเรียกว่าธุรกิจ “START UP” ให้สามารถใช้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นแหล่งระดมทุนต่อยอดธุรกิจ กำลังใกล้ความเป็นจริงเข้ามาทุกทีแล้ว รอปรึกษาหารือรายละเอียดกับ ก.ล.ต.อีกนิด คาดว่าจะเปิดให้นักลงทุนจับคู่ลงทุนธุรกิจ Strat Up ได้ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ระบุในลิสต์รายชื่อธุรกิจ Start up

ข่าวดีสำหรับธุรกิจรุ่นใหม่ของไทย ที่จะสามารถต่อยอดความคิดและสร้างธุรกิจสานฝันให้เป็นจริง โดยสามารถหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ในการสร้างธุรกิจ ด้วยการระดมเงินทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้กำลังใกล้เข้ามาแล้ว

ดังที่ทราบกันดีว่า ทางการให้ความสำคัญและพยายามผลักดันนักธุรกิจรุ่นใหม่ Start Up มาระยะหนึ่งแล้ว และแนวทางหนึ่งในการช่วยเหลือธุรกิจใหม่ๆ นั่นคือการส่งเสริมเรื่องของเงินทุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของนักธุรกิจ แต่การระดมทุนของบรรดาธุรกิจ Start Up ก็คือ ไม่มีหลักประกัน ไม่มีคุณสมบัติถึงพร้อมที่จะสามารถขอวงเงินกู้จากแบงก์พาณิชย์ได้ และไม่มีทางที่จะมีคุณสมบัติพอที่จะเข้ามาระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ หรือ ตลาด MAI ได้

เพื่อการสนับสนุน ธุรกิจ Start Up ให้เกิดขึ้นจริง จึงต้องสร้างหลักเกณฑ์ใหม่ขึ้นสำหรับธุรกิจประเภทนี้โดยเฉพาะ ซึ่งขณะนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ดำเนินการเตรียมพร้อมที่จะสนับสนุน สร้าง “ตลาดใหม่” เป็น market place ขึ้นอีกหนึ่งตลาดให้ธุรกิจ Start up โดยเฉพาะแล้ว และโครงการนี้ของตลาดหลักทรัพย์ฯ มีทีท่าว่าน่าจะเป็นจริงเกิดขึ้นได้... ไม่ได้เป็นแผนในอากาศที่จะช่วยธุรกิจสนับสนุนทางการเงิน Start Up หรือ Venture Capital แบบที่ผ่านๆ มา ... นับเป็นข่าวดีสำหรับผู้คิดทำธุรกิจ Start Up ที่จะมีช่องทางการระดมทุนได้จริงๆ แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพูคัยในหลักการกัอีกเล็กน้อยกับ ก.ล.ต. ซึ่งคาดว่าสามารถเปิดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนกับธุรกิจ Start Up ได้ภายในไตรมาส 3/2560 นี้

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแพลทฟอร์มใหม่ เพื่อให้ธุรกิจ Start Up สามารถ เข้าระดมทุนผ่านระบบตลาดทุนได้เรียบร้อยแล้ว แต่จะมีรูปแบบที่ใหม่ พิเศษ ไม่ใช่การจดทะเบียนในตลาด mai และ ไม่ได้ตั้งเป็นกระดานใหม่พิเศษ ขึ้นมาในกระดานตลาดหลัก

“เราไม่อยากให้เรียกว่า กระดานรอง เราสร้างแพลทฟอร์มขึ้นมาสำหรับธุรกิจ Start Up แต่เหมือนเป็นมาร์เก็ตเพลส ขึ้นมา ซึ่งข้อกำหนดต่างๆ สำหรับการจะเข้ามาระดมทุนได้มีน้อยมาก ด้วยคุณสมบัติของธุรกิจ Start Up เราต้องการเอื้อให้ตัวเล็กตัวน้อยที่เราเรียกว่า Start Up หรือแค่เป็นบริษัทเฉยๆ ยังไม่ถึงขั้นเป็นบริษัทหมาชน ส่วนผู้ลงทุน จะเป็นพวกพอร์ทใหญ่มาก มีประสบการณ์มาแล้ว ทนความเสี่ยงได้ เคยลงทุนหุ้นมาแล้ว ไม่ใช่พวกรายย่อยรีเทลธรรมดาๆ มาลงทุน...อันนี้ไม่ได้ ซึ่งเราต้องดูแลให้ชัดเจน พราะคนมาลงทุนจะต้องรู้

วิเคราะห์วิจัยได้ รับความเสี่ยงได้ เพราะบริษัทที่ Start Up อาจใช้เวลาในการตั้งตัวเป็น 10 ปีก็ได้ คือนักลงทุนทั่วไปก็ได้ แต่ต้องรู้ตัวเอง ซึ่งต้องทนรอได้ คือเป็นนักลงทุนกลุ่มพิเศษตามนิยามของก.ล.ต. ดังนั้นกลุ่มบุคคลรายย่อยจะไม่ใช้กลุ่มแรกๆที่เป็นเป้าหมายของเรา”

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวย้ำว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯไม่ได้ตั้ง “กระดานรอง” หรือ “กระดานที่ 3” ขึ้นมา แต่เป็นตลาดพิเศษ ที่ตั้งมาในแพลทฟอร์มใหม่ ซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ อาจเป็นเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สนับสนุนให้เกิดความง่ายขึ้นในการจับคู่ นักลงทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งอาจจะมี ดีลเลอร์เข้ามาเป็นตัวกลางในตลาดนี้ก็ได้

“เกณฑ์รับหลักทรัพย์ตลาดปัจจุบันมีความยาก ต้องมีแทร็กแร็คคอร์ด แต่ Start Up คือ เริ่มต้นธุรกิจ ที่มีแนวคิดธุรกิจใหม่ๆ ถ้าประสบความสำเร็จจะเติบโตได้รวดเร็วมาก แต่ก็จะเป็นบริษัทที่มีความเสี่ยงสูง แต่เราจะช่วยให้เขาประสบความสำเร็จได้ดีขึ้นง่ายขึ้น ด้วยการสนับสนุนให้เขาเข้ามาใช้ กลไกตลาดทุน เป็นการกำหนดแพลทฟอร์มช่วยสตาร์ทอัพ และอาจเป็นธุรกิจ SME ที่ยังมีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะไปเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ได้ คือยังมีความเสี่ยงอยู่

ดังนั้นแพลทฟอร์มใหม่จะช่วยคนเหล่านี้หาเงินทุนได้ดีขึ้นง่ายขึ้น ขณะที่ในส่วนของนักลงทุนที่จะลงทุนต้องเป็นนักลงทุนที่มีความรู้ความสามารถพอ เพราะว่าเรามองว่า ไม่สามารถเปิดกว้างได้ทั้งหมด เนื่องจากจะมีนักลงทุนที่ ไม่ค่อยเข้าใจถึงเรื่องความเสี่ยงของธุรกิจที่เขาจะเข้าไปลงทุน เพราะว่าต้องทำการบ้านเยอะ จึงต้องป้องกัน ไม่อย่างนั้นเขาจะรับความเสี่ยงไม่ได้

ผมไม่อยากเรียกว่าเป็นกระดาน 3 เพราะจะกลายเป็นว่าตลาดต้องเลือกของเข้ามาในกระดาน ภายใต้ความคาดหวังของนักลงทุนว่ามีการัดกรองมาอย่างดีมากแล้ว แต่สำหรับ Start Up นี้ เราจะกำหนดเกณฑ์การรับขึ้นต่ำง่ายๆ เรียกว่า เข้ามาเป็นใครก็ได้แค่ขอให้เปิดเผยข้อมูลธุรกิจที่จริง และมีบัญชีเล่มเดียว นักลงทุนที่เข้ามาก็เป็นนักลงทุนที่รู้ตัวว่ามาลงทุนในสิ่งที่ต้องระวังมากขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นบริษัทจำกัด”

นายสันติย้ำว่า ข้อสรุปนี้จะชัดเจนมากขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ เพราะกำลังพัฒนาด้านอื่นไปอย่างเร่งด่วนแล้ว ซึ่งจะเห็นการซื้อขายได้ในไตรมาส 3/2560

 
bottom of page