มีปัจจัยลบเพิ่ม !
ในมุมมองของ “นายหมูบิน” ทิศทางของ SET ในระยะสั้นระหว่างสัปดาห์ยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐานราคา และต่อสู้กับแรงกดดันจากแนวโน้มพักตัวในระยะสั้นไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งในเชิงของการกำหนดกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น หรือ Tactical จะพบว่ามีอยู่ 3 ปัจจัยหลักๆที่ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นของ SET ยังคงมีความน่ากังวล ได้แก่
หนึ่ง การอยู่ในภาวะ Dead Cross ขั้นที่ 3 ของ SET สะท้อนโอกาส (ผมใช้คำว่าโอกาสนะครับ) ที่จะเกิดแนวโน้มพักตัวในรายเดือน หรือ Monthly ของ SET
สอง การที่ Indicators ระยะสั้นเกือบทุกตัวยังคงมีสัญญาณ Bearish และยังคงสะท้อน Momentum ที่อ่อนแอสนับสนุนแนวโน้มการพักตัว
สาม การเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติกลับมาเป็นปัจจัยลบ หลังจากที่ดัชนี Accumulated Foreign Fund Flow ปรับตัวลงมาต่ำกว่า EMA 25 วัน สะท้อนมุมมองเชิงลบ หรือ “Pessimism” ต่อ SET ขณะที่ MACD ของดัชนีดังกล่าวปรับตัวลงมาต่ำกว่า Zero Line สะท้อนสัญญาณ “ขายต่อ” ของนักลงทุนต่างชาติ
ดังนั้นในระยะสั้นรายสัปดาห์ หรือ Weekly การจะยืนยันว่าการพักฐานรอบนี้ของ SET จบแล้ว และจะไม่พักตัวลงไปสร้างฐานในกรอบ 1,550-1,530 จุดอีก จะมีเงื่อนไขในเชิง Tactical ที่สำคัญอยู่ 3 ประเด็น คือ
หนึ่ง SET ต้องกลับไปปิดเหนือ 1,570 จุด และสร้างฐานเหนือบริเวณดังกล่าวให้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรอสัญญาณ “Bullish” ของ Indicator ระยะสั้น
สอง Indicator ระยะสั้นที่เห็นใน WHC EQ Market Dashboard จะต้องกลับมามีสัญญาณ “Bullish” อย่างน้อย 3 จาก 4 Indicators
สาม จากการที่ล่าสุดยอดซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติกลับมาติดลบเป็นครั้งแรกของปี 2560 ราว 832 ล้านบาท จากที่เคยเข้าซื้อสะสมสูงสุดราว 1 หมื่นล้านบาทในวันที่ 12 ม.ค.2560 สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าการขายของต่างชาติในช่วงที่ผ่านมาอาจเป็นการขายทำกำไร หรือ Exit จริงๆ ไม่ใช่แค่หมุนปรับพอร์ต หรือ Switching
ดังนั้นเพื่อให้ความกังวลดังกล่าวลดน้ำหนักลง และเป็นการสนับสนุนการดีดกลับด้วย ในสัปดาห์นี้ยอดซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติจำเป็นต้องกลับมาเป็นบวกอีกครั้งเป็นอย่างน้อย
ในเบื้องต้นแนวโน้มของ Fund Flows มีความชัดเจนขึ้นมาก (ว่าไหลออก) หลังจากที่ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในการกล่าวสุนทรพจน์ที่ Executives' Club of Chicago ถึงโอกาสที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เลย สะท้อนออกมาจากผลสำรวจล่าสุดของ CME Group Fed Watch ที่ระบุว่านักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสสูงถึง 78% และ 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15-16 มี.ค.2560 และ 3-4 พ.ค.2560
ทั้งนี้ถ้าการส่งสัญญาณดังกล่าวเป็นจริงมีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงอีก และนักลงทุนต่างชาติจะขายต่อ ดังนั้นแม้ว่า “นายหมูบิน” จะยังคงมุมมองว่าเฟดจะไม่รีบร้อนขึ้นดอกเบี้ยก่อนเดือน มิ.ย.2560 แต่นักลงทุนก็ยังต้องติดตามปัจจัยดังกล่าวอย่างใกล้ชิดด้วย
ต่างชาติขายต่อ ! : แม้ว่าในระยะกลางรายเดือน หรือ Monthly การที่ล่าสุด SET50 ยังคง Outperform เมื่อเทียบกับ SET ตรงข้ามกับ MAI ที่กลับมา Underperform สะท้อนให้เห็นว่าหุ้น Market Cap ขนาดใหญ่สนับสนุนทิศทางของ SET ในระยะสั้นมากกว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็กชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่า SET ยังคงไม่ได้อยู่ในช่วงปลายขาลง ประกอบกับภาพในระยะสั้นทิศทางของตลาดหุ้นโลกดูจะยังคงรักษาเนื้อรักษาตัวให้อยู่ใน Momentum ขาขึ้นได้อยู่สะท้อนออกมาจากการที่ในทางเทคนิคดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ, ยุโรป และญี่ปุ่นยังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทุกเส้นได้ ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐในฐานะตัวแทนของตลาดหุ้นโลกได้มีผลสำรวจความเชื่อมั่นล่าสุดของนักลงทุนสหรัฐจาก AAII ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (23 ก.พ.-1 มี.ค. 2560) แม้จะพบว่าสัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังเป็นขาขึ้น หรือ Bullish ลดลง 0.6% สู่ระดับ 37.9% แต่ยังคงสูงกว่าสัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐเป็นขาลงแล้ว หรือ Bearish ที่เพิ่มขึ้น 3.3% สู่ระดับ 35.6% แต่การที่ SET ยังคง Underperform ทั้งตลาดหุ้นโลกที่มีสหรัฐเป็น Proxy และตลาดหุ้น ASEAN เป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันแล้ว ทำให้ “นายหมูบิน” มองว่า SET จะยังคงไม่ได้ประโยชน์จากทิศทางของตลาดหุ้นโลกมากนักในช่วงนี้ เห็นได้จากแนวโน้มระยะสั้นของเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นไทย ที่สะท้อนออกมาผ่าน Foreign Fund Flow Barometer ยังคงอยู่ในโซนสีแดง หรือ Euphoric สะท้อนว่ามีโอกาสชะลอการลงทุนต่อไปในระยะสั้น จนกว่าจะกลับเข้าสู่พื้นที่ปกติ หรือ Neutral ขณะที่ค่าเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐกลับมาสนับสนุนการขายของนักลงทุนต่างชาติ โดยปรับตัวลงมาเคลื่อนไหวเหนือ EMA 25 แล้ว
ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) กรณีที่ SET ยังคงปิดต่ำกว่า 1,570 (+/-5) จุด แนะนำ กลับมา “ถือเงินสด” หรือ “Wait and See” ไปก่อน ขณะที่กรณีตรงข้ามที่ SET กลับมาปิดเหนือกว่า 1,570 (+/-5) จุดอีกครั้ง แนะนำ “อ่อนตัวซื้อเก็งกำไร” ในหุ้น PTT, PTTGC, TOP, KBANK, SCB, STEC, CK, SCC, LH, SIRI, INTUCH และ ADVANC
สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไว้ที่ระดับ 50% ของพอร์ต”
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/moobin.stockmania และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆ ยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ ทุกวันอาทิตย์ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” ทาง FM 101 เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ
ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)
Source: Wealth Hunters Club