top of page
image.png

MFC ลุยเปิดสาขาต่างจังหวัด..ผูกปิ่นโต "ออมสิน" เพิ่มมาร์เก็ตแชร์


บลจ.เอ็มเอฟซี วางหมากเพิ่มฐานธุรกิจในปี 2560 ให้เติบโตมากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่ 625,039 ล้านบาท หรือ 46.8% ผ่านการขยายฐานลูกค้าออกสู่ต่างจังหวัดมากขึ้น ด้วยจุดแข็งของ MFC ที่มีเป็นทุนเดิมนั่นคือ การมีสาขาและทีมขายเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกันยังหันมาจับมือกับพันธมิตรอย่างออมสินให้แน่นขึ้นในการช่วยขายกองทุนผ่านสาขาออมสินที่มีจำนวนมาก พร้อมกับการหาพันธมิตรต่างประเทศมาเสริมประสิทธิภาพ

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) กล่าวถึงผลการดำเนินงานของบริษัทในรอบปี 2559 ที่ผ่านมาว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทภายใต้การจัดการของบริษัท 426,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% จากปี 2558 (มีมูลค่า 364,000 ล้านบาท) แบ่งเป็น

กองทุนรวม 239,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23% กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 154,000 ล้านบาท เติบโต 9% และกองทุนส่วนบุคคล 32,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น10% จากปี 2558 โดยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนทุกประเภทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 5 ของอุตสาหกรรม คิดเป็น 6.68%

เอ็มเอฟซี ได้เสนอขายกองทุนใหม่ในปีที่แล้ว 71 กองทุน สามารถระดมเงินได้ 31,143 ล้านบาท เป็นกองทุนรวม 19 กองทุน มูลค่ารวม 10,850 ล้านบาท กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 1 กองทุน มูลค่ารวม 500 ล้านบาท กองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้มีการจัดตั้งกองทุนใหม่ 4 กองทุน มูลค่ารวม 14,194 ล้านบาท และกองทุนส่วนบุคคลมีการจัดตั้งกองทุนใหม่ 47 กองทุน มูลค่ารวม 5,599 ล้านบาท

ในปีที่ผ่านมา เอ็มเอฟซีได้ร่วมมือกับกระทรวงการคลังในการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) และได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้จัดการกองทุนดังกล่าว

เอ็มเอฟซีได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวม 24 กองทุน เป็นเงินกว่า 1,283.08 ล้านบาท โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเหมราชอินดัสเตรียล (HPF) จ่ายเงินปันผลรวมสูงสุดกว่า 314.67 ล้านบาท และกองทุนเปิดร่วมพัฒนาสอง (RPF2) จ่ายเงินปันผลต่อหน่วยสูงสุด 1.70 บาท

สำหรับปี 2560 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเป็น 625,039 ล้านบาทหรือ 46.8% และรักษาระดับรายได้ที่ประมาณ 1,242.2 ล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นกลยุทธ์หลักคือ การขยายสาขาไปต่างจังหวัด และการขยายฐานลูกค้าของสาขาต่างจังหวัดที่เปิดบริการมาก่อนแล้ว

“จุดแข็งของเอ็มเอฟซี คือเรามีสาขาและทีมขายเป็นของตัวเอง จึงมีความชำนาญในการอธิบายและดูแลลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งเราก็เริ่มเปิดสาขาใน กทม. ที่แจ้งวัฒนะ ซึ่งติดตลาดแล้ว และเปิดอีกสาขาที่พระปิ่นเกล้า ต่อจากนี้ก็จะเปิดต่างจังหวัดมากขึ้น เมื่อเร็วๆนี้เปิดสาขาที่อุบล ซึ่งมีนักลงทุนให้ความสนใจพอสมควร เราจะเปิดสาขาให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค

การเปิดสาขา เป็นการขยายฐานนักลงทุนรายย่อย เราจะเน้นการเปิดสาขาไปที่ต่างจังหวัด ซึ่งมีคนถามว่า ทำไมไม่ขยายที่กรุงเทพฯ ความจริงคือใน กรุงเทพเรามีไดเร็คเซลส์อยู่แล้ว และ คนต่างจังหวัดต้องมีคนที่เป็นตัวแทนเรา เช่น กองทุนรวม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนส่วนบุคคล เรามีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มที่โคราช

ขณะเดียวกันเราก็มีแผนจะนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกและง่ายต่อการเพิ่มฐานลูกค้า ตอนนี้เรามี โมบายแอพ มีเอ็มเอฟซีสมาร์แอพ ทำให้ซื้อกองทุนทางแอพได้เลย”

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี ยังกล่าวถึงกลยุทธ ที่สำคัญด้วยว่า

จะเพิ่มความร่วมมือทางธุรกิจกับธนาคารออมสินให้มากขึ้นอีก ซึ่งออมสินเองเป็นผู้ถือหุ้น บลจ.เอ็มเอฟซี และขายหน่วยลงทุนให้เอ็มเอฟซีมาก่อนแล้ว ทั้งนี้เพื่อสร้างรายได้และสร้างความแข็งแกร่งให้กับเอ็มเอฟซี

“ในส่วนของการหา Strategic Partners เพื่อพัฒนาธุรกิจ พัฒนากองทุนรูปแบบใหม่ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าจากผลงานการบริหารกองทุนและผลตอบแทนทุกประเภทกองทุน เพื่อให้เกิดความสะดวกและเป็นที่ประทับใจแก่ลูกค้า และการมุ่งเน้นธุรกิจที่สร้างการเติบโตและรายได้ที่ยั่งยืนให้กับบริษัท เราก็ยังคงเดินหน้าอยู่”

 
bottom of page