top of page
379208.jpg

ปั้นแบรนด์ระดับโลก 'ออมสิน' ปลุก Street Food...ช่วยสร้างศก.ฐานรากไทย


“สตรีทฟู้ด” อาหารริมถนน/ตรอกซอกซอยเมืองไทย กลับมาผงาดยิ่งใหญ่ ภายใต้การโปรโมท/ดูแลของธนาคารออมสินยุค ผอ.ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผุดไอเดียปั้นแบบครบวงจรให้เป็นแบรนด์ดังระดับโลก ขายนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30 ล้านคน แถมช่วยคนไทยส่วนใหญ่มีรายได้ตรง/รายได้เสริมช่วยเหลือครอบครัว ช่วยให้มีร้านอาหารริมทาง อาหารดี-ราคาถูก ขายคนไทยส่วนมากมีรายได้น้อย สามารถอยู่ได้ในยามค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยกับ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ถึงโครงการสินเชื่อธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้กับร้านอาหารริมทางหรือสตรีทฟู้ดว่าเกิดจากขณะนี้รัฐบาลมองปัญหาว่าเศรษฐกิจฐานรากของไทยไม่ค่อยเข้มแข็ง แปลว่ารายได้ของประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ดี ขณะที่มีการสำรวจสตรีทฟู้ดทั่วโลก เมืองไทยได้รับการยกย่องให้เป็นอันดับ 1 ทั้งในด้านความอร่อย ราคาไม่แพง และมีขายอยู่โดยทั่วทุกพื้นที่เมืองไทยเมืองนอกพอตกดึกแล้ว การจะหาอะไรทานลำบาก แต่สำหรับไทยสามารถที่จะหาอะไรทานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น สตรีทฟู้ดน่าจะเป็นอนาคตส่วนหนึ่งของการที่นักท่องเที่ยวเวลามาจากต่างประเทศ หากได้ลองสตรีทฟู้ดในไทยจะชอบในเรื่องราคาที่ย่อมเยา มีเงิน 1-2 ดอลลาร์ทานได้จนอิ่ม ธนาคารออมสินมองว่า หากส่งเสริมสตรีทฟู้ดในไทยให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ จะผลักดันให้สตรีทฟู้ดเมืองไทยเป็นที่ยอมรับและรู้จักดีของคนทั่วโลก

“ปัจจุบันไทยเรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 30 ล้านคนต่อปี หากคนหนึ่งมาทานสตรีทฟู้ดมื้อละ 100 บาท นับตั้งแต่เดินทางเข้ามาจนออกจากเมืองไทย ก็น่าจะมีการทานกว่า 10 มื้อ หากนักท่องเที่ยวคนหนึ่งใช้เงินกว่า 1 พันบาท ถ้าคูณ 30 ล้านคน ก็ได้กว่า 3 หมื่นล้านบาทแล้ว ดังนั้น เชื่อว่าจะยกระดับรายได้ของอาชีพสตรีทฟู้ดทั่วประเทศได้ ไม่จำเป็นต้องที่เยาวราช หรือตรอกข้าวสาร คือ ทุกถนน ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด หากมีร้านอาหารที่มีคุณภาพ แล้วเรายกระดับได้ เช่น สร้างมาตรฐานสินค้าให้ใหม่ อย่าง โต๊ะ เก้าอี้ จาน ชาม ที่ล้างจานชาม หรือแม้แต่รถเข็น จะทำให้สภาพร้านดูน่าทานขึ้น หรือเราสร้างแบรนด์ให้เขา ติดใบรับรองคุณภาพอาหาร เป็นการยกระดับรายได้ให้กับเศรษฐกิจฐานรากได้” นายชาติชายกล่าว

นายชาติชายเปิดเผยว่า ธนาคารออมสินมีวงเงินให้สตรีทฟู้ดกู้ตั้งแต่ 2 แสนบาท ถ้าเป็นร้านอาหารข้างทาง หรือรถฟู้ดทรัค ถ้าจะซื้อ ธนาคารออมสินจะให้ไฟแนนซ์ โดยที่ปัจจุบัน ลิสซิ่งก็ไม่ได้ให้ไฟแนนซ์กับรถฟู้ดทรัค คือให้เฉพาะรถเก๋ง และรถปิ๊กอัพเท่านั้นเอง หรือแม้แต่ร้านห้องแถว ก็จะมีการให้สินเชื่อเพื่อให้นำไปปรับปรุงร้าน

“ในความเป็นจริง ธนาคารออมสินคิดจะทำมากกว่าการปล่อยสินเชื่อ คือจะช่วยยกระดับคุณภาพ หาเทคโนโลยี มีการศึกษาว่ามีหลายๆรูปแบบร้านค้าให้คุณเลือก มีใบรับรองคุณภาพให้ หรือทำการพีอาร์ผ่านรายการดังๆ ตอนนี้กำลังเจรจากับทางเวิร์คพอยท์ โดยจะมีการทำโปรโมชั่น โปรโมท ประกวดฟู้ดทรัค หรือประกวดสตรีทฟู้ด ทำให้สตรีทฟู้ดเมืองไทยตื่นตัวขึ้นมา และทำให้หน่วยราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องประสานงานกับทางกทม. เทศบาลต่างๆ ถนนคนเดินต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพ แทนที่การจัดระเบียบและขับไล่เพียงอย่างเดียว ก็จะเป็นผลดีต่อรายได้ของร้านอาหารริมทาง” นายชาติชายกล่าว

“ถ้าเรารักษาสตรีทฟู้ดไว้ หากมองง่ายๆ จะทำให้ค่าครองชีพของคนไทยไม่สูงมาก คือไม่มีที่ไหนในโลกหากจะทานก๋วยเตี๋ยวชามละ 40-50 บาท ข้าวแกงจานละ 30-40 บาทก็อิ่มได้เท่าร้านอาหารริมทางในเมืองไทย ที่สำคัญจะทำให้ค่าครองชีพคนไทยต่ำจากที่ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาทต่อวัน การจะหาอะไรทานต้องใช้เงินสูง ทำให้คุณภาพชีวิตหรือค่าครองชีพของคนไทยยังต่ำอยู่”

ผู้อำนวยการธนาคารออมสินยังสะท้อนภาพเมืองไทยถ้าไม่มีร้านอาหารริมทางเลย จะเป็นการสนับสนุนให้คนเข้าร้านสะดวกซื้อมากขึ้น คนไปซื้ออาหารแล้วก็เวฟเอา ราคาจะสูงกว่ามาก และไม่ได้ทานอาหารสดๆด้วย ตรงนี้ทำให้ค่าครองชีพบ้านเราสูงขึ้น และทำลายระบบร้านค้าย่อย จะไม่มีที่ทางทำมาหากิน ดังนั้นไทยควรจะส่งเสริมและสร้างแบรนด์สตรีทฟู้ดขึ้นมาให้สำเร็จ ธนาคารออมสินขอเป็นส่วนหนึ่งในการเริ่มต้นที่จะปลุกสตรีทฟู้ดให้เป็นเรื่องเป็นราว ด้วยการทำร้านอาหารมีคุณภาพ พร้อมกับมีคุณภาพชีวิตที่ดี และยังเป็นการเพิ่มรายได้

“ธนาคารออมสินจะเปิดการสอนให้ทำอาหารเพื่อเป็นอาชีพเสริม ช่วยคนส่วนใหญ่ยังมีรายได้ไม่มาก แต่ต้องเลี้ยงครอบครัว การมีอาชีพเสริมจะช่วยได้ นอกจากเป็นการสนับสนุนให้ร้านอาหารริมทางอยู่ได้ต่อไป ไม่เหมือนกับร้านโชห่วยที่ก่อนหน้าโดนผลกระทบจากการเข้ามาของค้าปลีกต่างชาติ จนอยู่ไม่ได้ต้องล้มหายตายจากไปในเวลานี้” นายชาติชายกล่าวและพูดถึงสตรีทฟู้ดที่จะเข้าร่วมโครงการกับธนาคารออมสินว่า เราจะทำป้าย เช่น “ออมสินชวนชิม” ร้านนี้มีคุณภาพเพราะออมสินดูแล

“รวมถึงจะมีการนำเครื่องมือในการชำระเงินเข้าไปช่วย เช่น ใช้คิวอาร์โค้ต อย่างเช่นที่จีนตอนนี้ ร้านขายผลไม้ก็มีการโหลดแอพพลิเคชั่นเข้าไปสามารถชำระเงินได้ทันทีจากมือถือ ไม่ต้องจ่ายเงินสด พ่อค้าแม่ค้าจะได้เงินเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติโดยธนาคารออมสินเองจะช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงินเข้าบัญชี ร้านค้าจะมีเงินผ่านเข้าบัญชี มีประวัติทางการเงิน เวลากู้ในครั้งต่อไปจะง่าย และเมื่อผ่อนชำระมีประวัติดี ธนาคารออมสินก็จะพิจารณาให้เงินกู้ครั้งต่อไปมีจำนวนมากขึ้นกว่าครั้งแรก จาก 5 หมื่นบาท เป็น 1-2 แสนบาท และจะส่งผลความเสี่ยงต่อการปล่อยสินเชื่อของแบงก์น้อยลง เพราะได้คุยกับร้านค้าอย่างใกล้ชิด”

90 views
bottom of page