การโคจรเคลื่อนย้ายหรือยกของดวงดาวสำคัญในทางโหราศาสตร์ เกี่ยวข้องกับชะตากรรมของประเทศ ความเป็นไปของบ้านเมือง รวมทั้งชีวิตของผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ในหลายเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองหลายครั้ง มีเรื่องของโหราศาสตร์และอิทธิพลของดวงดาวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่อง
แม้กระทั่งการรัฐประหาร ยึดอำนาจเพื่อโค่นล้มรัฐบาลหลายต่อหลายครั้ง ก็ต้องมีฤกษ์งามยามดี
สถานการณ์ปัจจุบันก็เช่นกัน ดวงดาวสำคัญอย่างน้อย 2 ดวง กำลังมีการเคลื่อนย้ายหรือยกเข้าสู่ราศีใหม่ ว่ากันว่าจะส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตประเทศและผู้คน
ในมุมมองของเกจิชื่อดังของยุคสมัยอย่าง พระพรหมมังคลาจารย์ หรือ เจ้าคุณธงชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม มองว่า ในเดือน ส.ค.ต่อเนื่อง ก.ย.นี้ จะมีดวงดาวสำคัญ 2 ดวงที่เกี่ยวเนื่องกับชะตากรรมความเป็นไปของบ้านเมือง ประเทศ และผู้คน เคลื่อนย้ายเปลี่ยนแปลง
ดวงแรกคือ “พระราหู” ซึ่งในทางโหราศาสตร์หมายถึงเทพเจ้าแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นดาวที่ให้ทั้งคุณและโทษ จะย้ายใหญ่จากราศีสิงห์เข้าราศีกรกฎ ในวันที่ 4 ส.ค.2560 เวลาประมาณ 23.05 น. หรือ 5 ทุ่มเศษ และถัดจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือน คือในวันที่ 6 ก.ย.2560 “ดาวพฤหัส” ซึ่งเป็นดาวศุภเคราะห์ ที่ในทางโหราศาสตร์ มีความหมายดีถือเป็นตัวแทนของศาสนา ครูบาอาจารย์ นักบวช คุณธรรม ความดี ความเจริญก้าวหน้า จะย้ายจากราศีกันย์เข้าราศีตุลย์ เวลาประมาณ 20.19 น. หรือ 2 ทุ่มเศษถึงวันที่ 6 ต.ค.2561 ก่อนยกเข้าสู่ราศีพิจิก
การย้ายหรือยกของดาวทั้ง 2 ดวง ถือว่าให้คุณกับประเทศไทยมากกว่าให้โทษ แต่การยกหรือย้ายของดวงทั้ง 2 ดวงยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวมฤตยูที่ย้ายเข้าราศีเมษทับสู่ลัคนาดวงเมืองเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2559 และจะอยู่ไปจนถึงวันที่ 7 ก.ค.2565 ส่งผลให้ประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เข้าสู่ยุคใหม่ นวัตกรรมใหม่ ความคิดใหม่ ใครไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงจะกลายเป็นคนตกยุคสมัย
“ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ดาวราหูย้าย จะเกี่ยวกับเรื่องของการเงิน เศรษฐกิจ บรรยากาศบ้านเมืองจะดีขึ้น เศรษฐกิจการลงทุนจะมีมากขึ้น มีการเคลื่อนไหวของเงินลงทุนจากต่างประเทศ ขณะที่ประชาชนจะได้ขยับขยาย การเมืองจะดีขึ้น ข้าราชการจะมีการปรับย้ายอย่างต่อเนื่องให้เหมาะสมเพื่อรองรับการปฏิรูปประเทศ คนไม่ดีจะตกขบวน ขอให้อดทนกับกฎกติกาใหม่ของประเทศ การเลือกตั้งจะเกิดขึ้น...
แต่อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งก็ต้องไม่ประมาทและต้องระวัง เพราะที่เป็นปัญหาคือดาวราหู เคลื่อนไปทำมุมฉากกับดาวมฤตยูที่ทับลัคนาดวงเมืองอยู่ก่อนหน้านี้ ตรงนี้ คนกังวลกันมาก เกรงว่าบ้านเมืองจะมีเรื่องวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น เกิดความไม่มีเหตุผล ไม่มีหลักการจากอิทธิพลของราหู แต่ผลที่เกิดขึ้นจะไปกระทบกับคนที่ไม่ยอมรับกติกาการเปลี่ยนแปลงมากกว่า” เจ้าคุณธงชัยระบุ
เจ้าคุณธงชัยกล่าวต่อด้วยว่า ถัดไปอีกประมาณ 1 เดือน คือวันที่ 6 ก.ย.นี้ ดาวพฤหัส จะย้ายจากราศีกันย์เข้าสู่ราศีตุลย์ จะส่งผลให้กระบวนการยุติธรรมดีขึ้น ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง กฎหมาย กฎระเบียบ ข้อบังคับ จะชัดเจน มีพลังในการทำงานให้ประเทศเดินหน้า ขับเคลื่อนได้ นอกจากนี้ วงการศึกษา จะได้รับผลกระทบจะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดที่ต้องระวัง เพราะดาว 3 ดวง คือ มฤตยู ราหูและพฤหัส จะทำมุมกัน หรือเรียกว่าเผชิญหน้ากัน เรียกว่ามีทั้งธรรมะ มีทั้งอธรรม แต่สุดท้ายธรรมะย่อมชนะอธรรม
พระพรหมมังคลาจารย์ ยังกล่าวด้วยว่า การยกย้ายของดวงดาวสำคัญล้วนเกี่ยวข้องกับบ้านเมือง ชีวิตผู้คน ที่ได้รับอิทธิพลแตกต่างกันไป ดังนั้น ทุกคน ทุกเรื่อง ไม่ควรประมาท เพราะบ้านเมืองกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ มีการเปลี่ยนแปลง มีนวัตกรรมใหม่ ความคิดใหม่ มีเสรีภาพ ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง ใช้ชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ ดวงดาวก็ดำเนินไปตามครรลองของดวงดาว คนก็ต้องดำเนินชีวิตไปตามครรลอง
การออกมาวิเคราะห์การย้ายหรือยกของดวงดาวสำคัญของเจ้าคุณธงชัย ดูจะสอดคล้องกับนักโหราศาสตร์หลายท่านที่มองว่าบ้านเมืองยังวุ่นวายแม้จะมีแนวโน้มดีขึ้นก็ตาม
ถ้าดูจากปฏิทินทางการเมืองในเดือน ส.ค.2560 ที่ “ราหูย้าย” จะพบว่ามีคดีการเมืองที่จะต้องพิจารณา และเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงประเทศและการเมืองไทยอย่างน่าจับตา ไม่ว่าจะเป็น คดีการสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551ซึ่งศาลตัดสินในวันที่ 2 ส.ค.ก่อนราหูย้าย 2 วัน โดย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกฯ ในรัฐบาลเดียวกัน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ น้องชายของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นจำเลยฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งในที่สุดศาลตัดสินยกฟ้องจำเลยทุกคน นับเป็นการผ่อนคลายความเครียดทางการเมืองไปได้เปลาะหนึ่ง
ถัดจากนั้นวันที่ 25 ส.ค. จะมีการตัดสินคดีจำนำข้าว ซึ่งเป็นคดีที่มีคนจับตามากที่สุดเพราะมี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี น้องสาวของ ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยความผิด และในวันเดียวกันยังมีคดีตัดสินคดีฮั้วประมูลและปฏิบัติหน้าที่ มิชอบ โครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ซึ่งมีบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์และพวกเข้าไปเกี่ยวข้อง
ต่อมาวันที่ 29 ส.ค.จะมีการตัดสินคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งมี ยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เป็นจำเลย
ลองดูกันว่า อิทธิพลของ ราหู กับ ดาวพฤหัส จะนำพาประเทศไทยไปทิศทางใด
