ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)
ธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันอย่าง PTTEP ต้องยอมรับว่ามีผลได้และเสียจากราคาน้ำมันโดยตรง ดังนั้น เมื่อไหร่ที่ราคาน้ำมันดี ธุรกิจก็จะมีรายได้ดี มีกำไรสูง ในทางกลับกันช่วงใดที่ราคาน้ำมันตกต่ำ ผลประกอบการของธุรกิจก็จะตกต่ำลงไปด้วย ดังนั้น เมื่อมาดูผลประกอบการของธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรก จะพบว่าในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 นี้ เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันยังอยู่สูงกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ PTTEP จึงมีกำไรมากในระดับ 12,284.19 ล้านบาท แต่มาไตรมาส 2 ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงจนราคาลงมาที่ 42 ดอลลาร์ ทำให้ PTTEP พลอยมีกำไรลดน้อยลงเหลือแค่ 7,531.81 ล้านบาท สอดคล้องกับสภาวการณ์ที่แท้จริงของราคาน้ำมันมาก อาจจะมีกำไรได้พอสมควร เมื่อมีการเพิ่มกำลังการผลิตได้มากขึ้น จึงเป็นผลในระยะที่ยาวมากกว่าระยะสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ดูจากผลประกอบการของ PTTEP ในช่วงครึ่งปีแรกก็ทำกำไรได้รวมที่ 19,816 ล้านบาทแล้ว เมื่อมาพิจารณาต่อในครึ่งปีหลังจะพบว่าราคาน้ำมันมีการปรับสูงขึ้นค่อนข้างมาก ปัจจุบันราคาได้ขยับมาอยู่สูงกว่า 51 ดอลลาร์ ทำให้คาดได้ว่าผลประกอบการไตรมาส 3 จะดีกว่าไตรมาส 2 มาก อย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก และดูจนถึงสิ้นปี 2560 เป็นช่วงที่ราคาน้ำมันมักปรับสูงขึ้นจากความต้องการใช้น้ำมันในฤดูหนาวจำนวนมาก จึงเชื่อว่าราคาน้ำมันจะไม่ปรับลดลง ทำให้ PTTEP น่าจะมีกำไรอยู่ในเกณฑ์ดีจนสิ้นปี คาดว่าผลกำไรในปี 2560 นี้ คงจะทำได้ถึง 43,000 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นก็จะได้ที่ 10.83 บาท เมื่อมาประเมินราคาด้วยพีอีแค่ 10 เท่า ยังได้ราคาที่ 108.30 บาท แต่ราคาในตลาดอยู่แค่ 90 บาท จึงมี upside ได้อีก 20.33%
ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
ธุรกิจธนาคารในปี 2560 นี้ ยังคงถูกเพ่งเล็งในเรื่อง NPL อยู่มาก จากปัญหา NPL 2 ปีก่อนที่เพิ่มสูง ทำให้บรรดาธนาคารขนาดใหญ่ต่างต้องตั้งใจสำรองหนี้เสียจำนวนมาก มีผลให้แต่ละธนาคารมีกำไรลดลง อย่าง BBL ที่ผ่านมา 2 ปี ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว จากปี 2557 ที่เคยมีกำไรที่ 36,332 ล้านบาท มาปี 2558 กำไรก็ลดลงอยู่ที่ 34,180 ล้านบาท และปี 2559 กำไรยังลดลงเหลือ 31,814 ล้านบาท ทำให้เกิดความวิตกกันมากว่าปี 2560 นี้ กำไรของธนาคารจะลดลงอีกหรือไม่ เมื่อมาดูผลกำไรในครึ่งปีแรก พบว่า BBL ทำกำไรได้แล้ว 16,352 ล้านบาท กำไรเพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.6% จึงวางใจได้มากว่ากำไรจะไม่ลดลงอีก แต่จะเพิ่มมากเพียงใดมากกว่า เมื่อกลับมาพิจารณาถึงปัจจัยสำคัญๆ อย่างการเติบโตของเศรษฐกิจที่ปีนี้จะเพิ่มสูงกว่าปีก่อน โดยเฉพาะในครึ่งปีหลังสภาวการณ์ต่างๆ ดีขึ้นมาก จึงประเมินว่า BBL จะทำกำไรในปี 2560 นี้ได้ถึง 34,000 ล้านบาท กำไรต่อหุ้นจะได้ที่ 17.81 บาท ประเมินราคาหุ้นด้วยพีอี 10 เท่าจะได้ราคาที่ 195.91 บาท แต่ราคาในตลาดอยู่ที่ 186 บาท จึงมี upside ได้อีก 5.33%
ศุภาลัย (SPALI)
หลังจากมีความชัดเจนของการดำเนินการลงทุนในโครงการระบบรางของรัฐแล้ว ทำให้ SPALI ก็ออกมาแสดงความชัดเจนเช่นกันว่าจะทำโครงการใหม่เพิ่มอย่างจริงจังในครึ่งหลังของปี 2560 นี้ ทำให้สามารถคาดหวังผลกำไรที่สูงกว่าครึ่งปีแรกได้มาก เพียงแค่ไตรมาส 3 ก็พบว่า SPALI สามารถขายโครงการที่อยู่อาศัยได้เพิ่มมาก โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคสูง เนื่องจากมีราคาไม่สูงมาก และยังตอบโจทย์ของผู้บริโภคได้มาก ปกติ SPALI ก็จะใช้นโยบายทำโครงการคอนโดฯตามเส้นทางรถไฟฟ้าอยู่แล้ว จึงได้รับความสนใจมาก แต่ครึ่งปีแรกมีการชะลอโครงการ ทำให้มีรายได้ต่ำ มีกำไรเพียง 2,014.86 ล้านบาทเท่านั้น ครึ่งปีหลังจะมีกำไรสูงขึ้นมาก คาดว่าตลอดปี 2560 นี้จะทำกำไรได้ถึง 5,200 ล้านบาท แม้จะคิดทุนจากการเพิ่มวอร์แรนต์ใหม่เพิ่มก็ยังได้กำไรต่อหุ้นไม่ต่ำกว่า 2.42 ใช้ค่าพีอี 11 เท่า ประเมินราคาจะได้ที่ 26.66 บาท แต่ราคาในตลาดยังอยู่แค่ 23.30 บาท จึงมี upside ได้อีก 14.41% ลุ้นได้อีกมาก
