คณะกรรมการเวียตเจ็ทกรุ๊ป (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์: VJC) ประกาศข้อมูลงบการเงินก่อนตรวจสอบของปี 2560 ระบุตัวชี้วัดทางธุรกิจมีการเติบโตขึ้นอย่างมากในทุกด้านเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 และสูงกว่าแผนประจำปีที่กำหนดไว้
เวียตเจ็ทมีรายได้รวมในปี 2560 อยู่ที่ราว 42,258 พันล้านดอง (5,823 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 53.7% จากปีก่อนและสูงกว่าแผนประมาณการ 0.6% โดยมีกำไรก่อนหักภาษีราว 4,755 พันล้านดอง (6,550 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 75.9% จากปีก่อน หรือคิดเป็น 126% ของแผนที่ประมาณการไว้ ส่วนกำไรหลังหักภาษีสำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัทแม่อยู่ที่ 4,527 พันล้านดอง (6,230 ล้านบาท) คิดเป็นกำไรต่อหุ้นที่10,065 ดอง (13.94 บาท)
ความสำเร็จของเวีตเจ็ทเกิดจากการเพิ่มจำนวนเครื่องบินอีก 17 ลำในปี 2560 (รวมถึงเครื่องบิน A321 NEO ซึ่งเป็นเครื่องบินแอร์บัส A321 NEO ลำแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) และเปิดเส้นทางบินใหม่ 22 เส้นทาง (เส้นทางในประเทศ 1 เส้นทาง และเส้นทางต่างประเทศ 21 เส้นทาง) ทำให้มีเส้นทางบินในปัจจุบันมาก ถึง 82 เส้นทาง แบ่งเป็นเส้นทางในประเทศ 38 เส้นทาง และเส้นทางระหว่างประเทศ 44 เส้นทาง โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา เวียตเจ็ทให้บริการแก่ผู้โดยสาร 17.11 ล้านคน มีรายรับเฉพาะธุรกิจการขนส่งทาง อากาศที่ 22,577 พันล้านดอง (3,111 ล้านบาท) มากกว่าปีที่ผ่านมา 41.8% สูงกว่าแผนประมาณการที่กำหนดไว้ 4.6%
ข้อมูลถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 ระบุว่าเวียตเจ็ทมีเครื่องบินแอร์บัส A320 และ A321 รวม 51 ลำ โดยได้รับมอบเครื่องบินมาแล้ว 39 ลำจากคำสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้งจำนวนรวม 219 ลำ โดยมีอัตราความตรงต่อเวลาของเที่ยวบินมีอัตราเที่ยวบินตรงต่อเวลาในปี 2560 สูงถึง 85.59%
ต้นทุนต่อปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ไม่รวมน้ำมันเชื้อเพลิง) ลดลง 7.3% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน และถือว่ามีอัตราต่ำที่สุดในโลก จากมาตรการควบคุมต้นทุนในปี 2560 โดยต้นทุนต่อปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร รวมค่าเชื้อเพลิงลดลง 2.27%
ในปี 2560 ที่ผ่านมา เวียตเจ็ทจ่ายเงินสดปันผล 10% และหุ้นปันผล 40% ซึ่งเป็นกำไรจากปี 2559 รวมถึงจ่ายเงินสดปันผลล่วงหน้า 20% สำหรับกำไรของปี 2560 ด้วยผลประกอบการเชิงบวกทำให้เวียตเจ็ทสามารถเพิ่มอัตราปันผลแก่ ผู้ถือหุ้นได้จาก 50% เป็น 60% และได้เตรียมจ่ายเงินสดปันผล 10% สำหรับปี 2560 ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 นี้