ตลาดหุ้นโลกสดใส สวนทางเอเชีย

หุ้นภูมิภาคดูแย่กว่า !

แม้ว่าตลาดหุ้นโลกในภาพรวมจะยังคงอยู่ในทิศทางของการปรับตัวขึ้นต่อได้ หลังจากที่ล่าสุดดัชนี S&P500 ของสหรัฐ, Stoxx50 ของยุโรป, NIKKEI ของญี่ปุ่น ต่างยังคงมีสัญญาณของการพักตัวในทางเทคนิคต่อเนื่อง หลังจากที่ดัชนีในกลุ่มดังกล่าวกลับเคลื่อนไหวอยู่เหนือกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้นอีกครั้ง และ Indicator สำคัญอย่าง RSI มีสัญญาณ Positive Convergence ชัดเจน ขณะที่สัญญาณในการกลับตัว หรือ Reversal Signal ในระยะสั้นรายสัปดาห์จะยังคงไม่เกิดขึ้นจนกว่าดัชนีดังกล่าวจะกลับมาแกว่งตัวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วันก่อนในเบื้องต้น

เนื่องจากล่าสุดดัชนี VIX Index ของสหรัฐ และ HIS VIX Index ของฮ่องกงยังคงมีอยู่ใน Momentum ของการปรับตัวลง สะท้อนออกมาจากการที่ดัชนีทั้ง 2 ตัว กลับมาเคลื่อนไหวต่ำเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้นอีกครั้ง และ Indicator สำคัญของดัชนีดังกล่าวอย่าง RSI ยังคงมีสัญญาณ Sell Signal เช่นกัน

อย่างไรก็ดีในส่วนของตลาดหุ้นอาเซียนพบว่าทิศทางกลับสวนทาง และยังคงมีโอกาสที่จะมี Performance ที่แย่กว่าตลาดหุ้นโลกในภาพรวมต่อไป หลังจากที่ดัชนี FTSE Asean 40 กำลังอยู่ในสถานะในทางเทคนิคที่เรียกว่าการเกิด Dead Cross ขั้นที่ 4 โดยดัชนีกำลังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วัน ขณะที่ถ้าพิจารณาในเชิงของ Sentiment ประกอบจะพบว่าการดีดตัวกลับไปเลยของดัชนี FTSE Asean 40 ยังคงมีความเป็นไปได้น้อยในระยะสั้น และการดีดตัวขึ้นในระยะสั้นอาจเป็นเพียงแค่การ Technical Rebound เท่านั้น

ทั้งนี้ “นายหมูบิน” มองว่าสาเหตุที่ตลาดหุ้นอาเซียนยังคง Underperform ตลาดหุ้นโลก เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลต่อทิศทางของตลาดหุ้นโลกอยู่พอสมควร สะท้อนออกมาจากผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้าจาก AAII ที่ระบุว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา 27 เม.ย.- 2 พ.ค.2561 สัดส่วนนักลงทุนที่ยังคงเชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หรือ Bullish ลดลง 8.5% WoW มาอยู่ที่ระดับ 28.4% เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 38.5% สวนทางกับสัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐกำลังกลับสู่แนวโน้มขาลง หรือ Bearish ที่เพิ่มขึ้น 4.7% WoW มาอยู่ที่ระดับ 30.2% เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 30.5%

ดอลลาร์แข็งหนุนหุ้นสหรัฐ : เมื่อพิจารณาในเชิงเปรียบเทียบทางเทคนิคผ่าน Comparison Index จะพบว่าเมื่อเปรียบเทียบดัชนี S&P500 ของสหรัฐในฐานะตัวแทน หรือ Proxy ของตลาดหุ้นโลกกับสินทรัพย์เสี่ยง หรือ Risky Asset โดยเฉพาะสินค้าโภคภัณฑ์ตัวสำคัญๆทั้งในส่วนของน้ำมัน, ทองคำ, ถั่วเหลือง และทองแดงพบว่าดัชนี S&P500 มีแนวโน้มของ Momentum ที่ดีกว่า หรือ Outperform ชัดเจน ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลให้ตลาดหุ้นโลกมีโอกาสกลับมาแกว่งตัวขึ้นได้อีกครั้งน่าจะอยู่ที่ระดับ Potential Upside Gain เพราะเมื่อพิจารณาจากมูลค่าเหมาะสมในระยะ 12 เดือนข้างหน้าของกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆที่ได้จากการประเมินของ Bloomberg Consensus แล้วพบว่าดัชนี MSCI World ตลาดหุ้นโลก, ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นสหรัฐ, ดัชนี Stoxx50 ตลาดหุ้นยุโรป, ดัชนี MSCI Asia ex Japan ตลาดหุ้นเอเชีย และดัชนี SET ตลาดหุ้นไทย ยังคงมีระดับ Potential Upside Gain สูงถึง 18.0%, 18.8%, 19.5%, 19.8% และ 9.5% ตามลำดับ เทียบกับราคาน้ำมันดิบ และทองคำที่ราคาปัจจุบันเมื่อเทียบกับมูลค่าเหมาะสมในระยะ 12 เดือนข้างหน้าไม่เหลือ Potential Upside Gain โดยติดลบ 8.1% และ 2.5% ตามลำดับ

ขณะที่สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆอย่างเงิน, ทองแดง และข้าวโพดก็มีระดับ Potential Upside Gain เพียง 3.9%, 4.4% และ 0.7% เท่านั้น อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นเอเชียจะได้ประโยชน์น้อยมากในมุมมองของ “นายหมูบิน” หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากการที่ดัชนี US Dollar Index แกว่งตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้นต่อเนื่อง โดยปรับตัวขึ้น 3.8% ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.2561 เทียบกับค่าเงินเอเชียที่ดัชนี JP Morgan Asia Dollar Index ที่ปรับตัวลง 1.3% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) ใช้โอกาสที่ SET ยังคงไม่กลับไปปิดเหนือ 1,850 (+/-5) จุดอีกครั้ง เป็นโอกาสในการ “เข้าซื้อสะสม” ในหุ้น PTTGC, PTTEP, BCP, EGCO,TISCO, SCC, HMPRO, AOT และ ADVANC อีกครั้ง สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ระดับ 75% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/wealthhuntersclub และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” ทาง FM 101 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club