top of page

ตำรวจเข้มจับปรับคุก...งัดกฎหมายพนัน-แอลกอฮอล์


ตำรวจคุมเข้มพนันบอลโลก จับจริง ปรับจริง ขังคุกจริง ถ้าผู้พนันเป็นเด็ก-เยาวชนจะโดนคดีอาญา ประวัติด่างพร้อย แถมพ่อแม่ผู้ปกครองจะโดนทั้งปรับทั้งจำฐานปล่อยปละละเลย พร้อมกระชับพื้นที่โต๊ะบอล โต๊ะโพย เว็บไซต์พนันบอลกว่า 300 เว็บ ส่วนสถานบริการที่จัดให้มีการพนันบอล เปิดทีวีให้ดูพร้อมแถมเบียร์ ผิดทั้งพ.ร.บ.การพนันและพ.ร.บ.ควบคุมแอลกอฮอล์ เตือน...ไม่ได้แค่ขู่ จับแล้วนักพนันทางเว็บไซต์ 914 คน เสียทั้งอนาคต ชื่อเสียง รวมถึงเป็นผู้ต้องคดีอาญา

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 กล่าวกับ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ถึงกระแสการเล่นพันบอลโลก 2018 ว่า เนื่องจากเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้การเข้าถึงการเล่นการพนันผ่านช่องทางออนไลน์ง่ายขึ้นนั้น ซึ่งซูเปอร์โพลมีการระบุว่ามีคนไทย 5 ล้านคนที่มีความต้องการเล่นการพนันฟุตบอลโลก 2018 ดังนั้น ทางตำรวจนครบาลจึงมีการตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ขึ้น เพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันฟุตบอลโลก 2018 อย่างเข้มงวด

“การจับกุมการพนันฟุตบอลที่ผ่านมา เราได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพราะฟุตบอลที่แข่งขันจะมีตลอดปี ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลโลกจัดขึ้นทุก 4 ปี ภายหลังจบการแข่งขัน คดีอาชญากรรมที่เกิดจะมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1.ประทุษร้ายต่อร่างกาย กลุ่มที่ 2.ประทุษร้ายต่อทรัพย์จะมีมากขึ้น ดังนั้น ทางตำรวจก็มีมาตรการที่เข้มงวด มีฐานข้อมูลที่มากพอจะดำเนินการกดดันกับกลุ่มเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ขึ้น”

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวด้วยว่า ศูนย์ป้องกันปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 โดยให้ความสำคัญกับการรณรงค์ การสร้างการรับรู้ของประชาชน รวมทั้งเด็กๆ และเยาวชนว่าการเล่นการพนันฟุตบอลมีความผิดอย่างไร และพิษภัยที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร

“ขณะที่สถาบันครอบครัวต้องรับรู้ด้วย ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล ส่วนการบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องปลายเหตุ ซึ่งสถาบันครอบครัวต้องเริ่มจากพ่อแม่ การซื้อสมาร์ทโฟนให้ลูกหลานต้องระวัง ต้องช่วยสอดส่องด้วยว่าลูกหลานของตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับการพนันหรือไม่ รวมถึงสถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ต้องช่วยกัน”

นอกจากนั้น พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ยังกล่าวถึงการรณรงค์ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งในส่วนภาคประชาชนและผู้ประกอบการต่างๆ โดยมาตรการการปราบปราม กรณีที่เป็นโต๊ะบอล โต๊ะโพยตามชุมชนต่างๆ ก็จะมีการดำเนินการอย่างเข้มงวดเช่นกัน ที่สำคัญที่สุดก็คือเว็บไซต์การพนันที่ประชาชนทั่วไปเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งมีกว่า 300 เว็บไซต์ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเฝ้าติดตาม กดดัน และจับกุม โดยที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561จนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมแล้ว 3-4 เว็บไซต์

“ที่น่าเป็นห่วงคือ แต่ละเว็บไซต์มีคนเข้าไปเล่นประมาณ 914 คน ตรงนี้อยากฝากเตือนว่า การที่มีสมาร์ทโฟน และการเล่นการพนันออนไลน์ อย่าคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีเครื่องมือที่จะเข้าไปรวบรวมหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้เล่น ซึ่งตอนนี้ได้ออกหมายเรียก 914 คนมารับทราบข้อกล่าวหาฐานเล่นการพนัน ดังนั้น ผู้เล่นที่เป็นเยาวชนมีอายุต่ำกว่า 18-20 ปี ตรงนี้ก็จะเสียอนาคตแน่ เพราะจะต้องมีประวัติต้องโทษ หรือบุคคลอื่นๆ ที่มีชื่อเสียง เมื่อถูกออกหมายเรียกก็จะเสียชื่อเสียงพร้อมกับจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย ตรงนี้อยากฝากเตือนไว้ด้วย...

ที่สำคัญสุดก็คือ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชนปี 2546 ซึ่งระบุว่าผู้ปกครองจะปล่อยให้บุตรหลานไปเล่นการพนันไม่ได้ มาตรา 26 (8) ระบุไว้ชัดเจนว่า กรณีบุตรหลานท่านเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือตัวท่านรับทราบข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ตักเตือนไม่ว่ากล่าว ผู้ปกครองก็จะมีความผิดด้วย คือจะมีโทษติดคุก 3 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท ขณะเดียวกัน ในความเป็นจริงเราไม่อยากให้เรื่องราวไปถึงตรงนั้น แต่อยากชี้ให้เห็นว่า ถ้าผู้ปกครองปล่อยปละละเลย จะมีบทลงโทษ ซึ่งบางคู่ที่แข่งขันในฟุตบอลโลกครั้งนี้ กว่าจะแข่งขันอยู่ในช่วงเวลาตี 3 ตี 4 ก็ควรจะเตือนลูกหลานว่าควรจะดูหรือไม่ดูอย่างไร เพราะเชื่อว่าถ้าเราไม่ห่วงใยเขาเลย ก็อาจจะเสียการเรียน รวมถึงหากเข้าไปเล่นการพนันก็จะเสียอนาคตถ้าถูกจับได้”

สำหรับเว็บไซต์กว่า 300 เว็บ ที่เปิดให้แทงฟุตบอลนั้น พล.ต.ต.ภาณุวัฒน์กล่าวว่า บางเว็บไซต์ จะมีการเปิดเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ ซึ่งการพนันฟุตบอลในบางประเทศเป็นเรื่องถูกกฎหมาย เช่น อังกฤษ มาเลเซีย สิงคโปร์ ดังนั้น กรณีเซิร์ฟเวอร์หรือแอดมินที่อยู่ในต่างประเทศทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงไปยุ่งไม่ได้ แต่กรณีเซิร์ฟเวอร์อยู่ต่างประเทศแต่แอดมินอยู่ในประเทศนั้น เราสามารถดำเนินคดีได้

“ล่าสุดที่มีการจับกุมคือเว็บไซต์ ฟีฟ่า 555 ก็เป็นลูกข่ายของฟีฟ่า โกลด์ ซึ่งฟีฟ่า โกลด์มีเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่สิงคโปร์ถูกต้องตามกฎหมาย โดยฟีฟ่า 555 เป็นลูกข่ายเขา แต่มีแอดมินอยู่เมืองไทย เราก็เข้าไปดำเนินคดี และจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 คน และมีบัญชีผู้ที่เข้ามาเล่นบอล 914 คน มีเงินหมุนเวียนกว่า 120 ล้านบาท ถือว่าสูงมากพอสมควร...

“ตรงนี้จึงเป็นห่วงว่า ประชาชนทั่วๆ ไปคิดว่าการเข้าไปสมัครเล่นกับแอดมินทางออนไลน์แล้วตำรวจจะไม่รู้ บอกเลยว่าคงไม่ใช่ โดยตำรวจจะมีเครื่องมือที่จะรวบรวมหลักฐานที่จะเข้าไปดำเนินคดีกับผู้เล่นการพนันได้ ส่วนที่มีคนบอกว่าเว็บไซต์แทงฟุตบอลเหล่านี้มีผู้ที่มีอิทธิพล มีคนในเครื่องแบบอยู่เบื้องหลังนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะมี คือเรื่องการพนันกับคนไทยเป็นเรื่องที่รู้กันว่าผิดกฎหมาย ก็จะชอบเสี่ยง แต่ว่าจะเลยเถิดไม่ได้ เพราะบ้านเรามีกฎหมาย คือทุกประเทศจะต้องมีกฎหมายมีกฎเกณฑ์ หากเราชอบเล่นการพนัน แต่ว่ากฎเกณฑ์กฎระเบียบของบ้านเมืองเราไม่อนุญาตให้เล่น ก็แสดงว่าทางภาครัฐบาลมองว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดี เป็นเรื่องมอมเมา ก็จะต้องมีการดำเนินการจับกุม”

ส่วนความเคลื่อนไหวของบ่อนรับแทงฟุตบอลโลกล่าสุดนี้นั้น พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวว่า มีการหลีกเลี่ยงไปเปิดเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ และตัวแอดมินไปอยู่ตามชายแดนของไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งกฎหมายไทยควบคุมไปไม่ถึง แต่กรณีที่เซิร์ฟเวอร์อยู่ในเมืองไทย ตัวแอดมินอยู่เมืองไทย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำเสนอคสช.ให้ปิดเว็บไซต์เหล่านี้

“แต่ว่าลักษณะของการเปิดเว็บไซต์มันง่าย คือปิดเว็บไซต์นี้ก็ไปโผล่อีกเว็บไซต์หนึ่งได้ตลอดเวลา แต่เราจะมีเครื่องมือตัวหนึ่งที่ทางตำรวจใช้อยู่ คือถ้าหากว่าเงินหมุนเวียนมันเยอะ มีผู้เล่นเยอะ ตามพ.ร.บ.การพนันมันเป็นความผิดขั้นพื้นฐานของกฎหมายฟอกเงินด้วย เราก็จะเอากฎหมายฟอกเงินเข้ามาใช้เพื่อที่จะติดตามยึดทรัพย์ต่อไป...

“ในส่วนสถานบริการต่างๆ จะมีคำสั่งของคสช.ที่ 46/2559 ถึงกรณีสถานบริการ ที่เปิดให้มีการชมฟุตบอลเชียร์บอล ถ้าปล่อยปละละเลย หรือเจ้าของสถานบริการมีส่วนรู้เห็นในการจัดให้มีการเล่นการพนันหรือจัดให้ทายพนันบอล นอกจากจะถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การพนันตามมาตรา 12 มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 พันบาทแล้ว ยังจะต้องถูกปิดสถานบริการอีก 5 ปี ซึ่งบทลงโทษปิดสถานบริการ 5 ปี จะเป็นตัวกฎหมายใหม่ ที่ผ่านมาเราก็เข้าไปรณรงค์กับผู้ประกอบการสถานบริการ โดยสร้างการรับรู้ว่าถ้าผู้ประกอบการปล่อยปละละเลยและเกี่ยวข้องด้วย สถานบริการของท่านก็จะถูกปิดแน่”

ส่วนกรณีของผู้ผลิตและขายสินค้าที่จัดแคมเปญทายผลฟุตบอลโลก 2018 นั้น พล.ต.ต.ภาณุรัตน์กล่าวว่าไม่ถือว่าเป็นความผิดทางกฎหมาย ทั้งนี้ต้องมองอีกมิติหนึ่งว่า ที่รัฐบาลให้โอกาสคนไทยได้ดูฟุตบอลโลกฟรี ไม่เสียค่าลิขสิทธิ์นั้น ถือว่าการดูฟุตบอลเป็นการสร้างสรรค์ ส่วนการจัดให้ทายผล เป็นเรื่องของธุรกิจ ขณะที่สถานบริการเปิดให้ลูกค้าเข้ามาดูการถ่ายทอดสด ถือว่าเป็นการโปรโมทให้ลูกค้ามาใช้บริการในร้าน

“หากจัดแคมเปญสำหรับลูกค้าที่เข้ามาดูฟุตบอลแล้วลดเปอร์เซ็นต์ค่าทานอาหาร ส่วนนี้ไม่เป็นไร แต่ถ้าจัดแคมเปญจูงใจชวนให้เข้ามาทานแล้วแถมเบียร์ 2 แก้ว ตรงนี้ผิดพ.ร.บ.ควบคุมแอลกฮอล์ ส่วนที่ทายผลทางสื่อหนังสือพิมพ์ ตรงนี้พ.ร.บ.การพนันอนุญาตให้ทำได้ แต่ผู้ประกอบการต้องมาขออนุญาต หากถ้าไม่ขออนุญาตตรงนี้ถือว่าผิด ซึ่งก็มีสื่อหนังสือพิมพ์จำนวนไม่น้อยที่มาขออนุญาต โดยการทายผลว่าทีมชาติใดจะเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกตรงนี้ถือว่าไม่ผิด แต่หากให้ทายผลการแข่งขันที่แข่งกันแต่ละนัด ตรงนี้ผิดแน่ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังไม่เคยเห็นใครร่ำรวยจากการเล่นการพนัน แต่จะเห็นคนที่เล่นการพนันที่มีบ้านมีรถก็เสียหมด และอยากเตือนสติว่า ไฟไหม้บ้านยังเหลือที่ดิน แต่ถ้าเล่นการพนัน ก็จะไม่มีอะไรเหลือเลย”

33 views
bottom of page