ใจหาย..นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าสัว ชาตรี โสภณพนิช บิ๊กบอส/ประธานธนาคารกรุงเทพ ผู้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานในยุทธจักรแบงก์เมืองไทย จะอำลาจากภพชาติ/โลกใบนี้ไปในวัย แค่ 85 ปี ณ วันอาทิตย์ 24 มิถุนายน 2561 คิดว่าคนมีฐานะอภิมหาเศรษฐีร่ำรวยมั่งคั่งระดับเจ้าสัวไทยติดอันดับโลก ประมุขอาณาจักรธุรกิจใหญ่แถวหน้าประเทศ และเป็นเจ้าของกิจการโรงพยาบาลชั้นนำมีชื่อเสียงระดับโลก แน่นอนว่าต้องถึงพร้อมครบเครื่องด้วยหมอเก่งๆ ดูแลรักษาเยี่ยมยอด เครื่องมือแพทย์ก้าวล้ำทันสมัย เทคโนโลยีทางการแพทย์/ยาอายุวัฒนะอีกมากมาย ดาษดื่นที่วิทยาศาสตร์ค้นพบในยามนี้ น่าจะช่วยยื้อชีวิตต่ออายุอันมีค่ายิ่งของเจ้าสัวหลายแสนล้านบาทไว้ได้นานกว่า 100 ปีสบายๆ ไร้โรคาเบียดเบียน
คนมีตังค์ระดับ เจ้าสัว ส่วนใหญ่วัดกันที่ใครอายุยืนยาวนานมากกว่ากัน ไม่ต่างอะไรกับฮ่องเต้ที่โปรดการถวายพระพรให้อายุยืนหมื่นๆ ปีแต่อย่างใด นอกเหนือจากวัดกันที่การมีชีวิตยั่งยืนแล้วยังวัดกันที่ฐานะความร่ำรวยมั่งคั่งยั่งยืน จำนวนบ้าน..ทายาทลูก/หลาน บริวารของใครจะมีมากกว่ากัน อีกวัดกันที่บารมีคุณงามความดี ความเมตตากรุณาปราณี ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใจบุญสุนทานให้ความช่วยเหลือผู้อื่น..ผู้ยากไร้ ใคร ? จะมีมากกว่ากัน และด้วยเหตุนี้สุขภาพพลานามัยร่างกาย สติ..จิตวิญญาณของคนเจ้าสัวจึงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากในบั้นปลายชีวิตเพื่อเป็นหลักยึดผู้คนมากมาย เปรียบเสมือนหนึ่งหางเสือครอบครัว/อาณาจักรธุรกิจยิ่งใหญ่ขับเคลื่อนไปในทิศทางเป้าหมายที่ตั้งไว้
สามารถกล่าวได้ว่า เจ้าสัวชาตรี ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานมีสติปัญญาความสามารถคุณสมบัติถึงพร้อมด้วย ฮก ลก ซิ่ว สามเทพจีนผู้เป็นสุดยอดความปรารถนาและความสำเร็จสูงสุดในชีวิตของมนุษย์ ฮก ความโชคดี/เฮง..มีบุญเกิดมาเป็นลูก ชิน โสภณพนิช เจ้าสัวอาณาจักรธุรกิจกับเจ้าของแบงก์กรุงเทพ รับมรดกสืบทอดกิจการต่อมาและสามารถรักษากับสร้างอาณาจักรธุรกิจเติบใหญ่ไพศาลถึงพร้อมด้วยอำนาจบารมีคือ ลก ยศศักดิ์ตำแหน่งฐานะหน้าตาชื่อเสียง สุดท้ายในบั้นปลายชีวิตที่ผู้คนต้องการอยากมีอยากได้คือ ซิ่ว ความยั่งยืนมั่นคงมีความสามารถรักษาไว้ได้ มีอายุยืนยาวถึง 85 ปีกับมีทายาทลูกหลานอีกไม่น้อยไม่เคยปรากฏข่าวด้านลบ..เสียหาย ถือได้ว่าเป็นเจ้าสัวมีบุญวาสนามีความสุขยิ่ง
หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ !
สามารถพูดได้ว่า ชาตรี โสภณพนิช เป็นนายแบงก์ไทยที่มีฝีมือ..สติปัญญาความคิดอ่านเก่งกาจฉกาจฉกรรจ์จากการรักษามรดก ธนาคารกรุงเทพ ที่เจ้าสัวผู้พ่อมอบให้ดูแลเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้วในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ รับไม้ต่อจาก บุญชู โรจนเสถียร ลูกน้องผู้ซื่อสัตย์จงรักภักดีของเจ้าสัวผู้พ่อ เจ้าสัวชาตรี เข้ามารับหน้าที่ได้ไม่กี่ปีต้องเจอบททดสอบครั้งแรกในเหตุการณ์ผู้ฝากเงินแตกตื่นแห่ถอนเงินปี 2527 กลัวแบงก์ยักษ์ธนาคารกรุงเทพล้มครืนเพราะได้รับความเสียหายจากการปล่อยสินเชื่อฮ่องกง คนฮ่องกงทิ้งหนีตายไปต่างแดนกลัวจีนเข้ายึดครองเมื่อครบกำหนดเช่าปี ค.ศ. 1997/พ.ศ. 2540 เล่นเอาเจียนอยู่เจียนไป เหนื่อยหนักกว่าจะกอบกู้วิกฤตเรียกศรัทธากลับคืนมาได้
ก่อนหน้าเกิดวิกฤต ต้มยำกุ้ง 2540 โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ชาติไทยเมื่อสถาบันการเงินไทยมีปัญหาหนี้ NPL คนแห่ถอนเงินทำเอาล้มระเนน เจ้าสัวชาตรี-ตระกูลโสภณพนิช สูญเสียการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารกรุงเทพหรือมีผู้ถือหุ้นใหญ่ในปริมาณพอฟัดพอเหวี่ยงทำให้พวกเขาต้องอยู่กันอย่างหวาดหวั่นปริวิตกพอสมควร โดยเฉพาะอยู่ในห้วงเวลาเมืองไทยเปิดเสรีการเงิน BIBF มีการกู้เงินดอกเบี้ยต่ำจากต่างประเทศเข้ามาเก็งกำไรในตลาดเงิน ตลาดหุ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ เกิดการเทคโอเวอร์กิจการต่างๆมากมายโดยเฉพาะสถาบันการเงินไทยไม่ว่าแบงก์..ทรัสต์/ไฟแนนซ์เนื้อหอมสุดๆเป็นที่สนใจของนักลงทุน/นักเก็งกำไรในประเทศ/ต่างประเทศเข้าซื้อหุ้น
เมื่อเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง 2540 ทำเอาหุ้นสถาบันการเงินไทยตกหนักเล่นงานประดาผู้ถือหุ้นใหญ่ย่ำแย่ไปตามๆกันถือเป็นความโชคร้ายบนความโชคดี หรือความโชคดีบทความโชคร้ายของ เจ้าสัวชาตรี สุดแล้วแต่ใครจะมอง หรือมองมุมไหนเมื่อเขากับลูก/บริวารต้องทำงานกันหนักหนาสาหัสเพื่อรักษามรดก..กิจการธนาคารกรุงเทพ แบงก์ยักษ์ใหญ่ไทยหมายเลข 1 เอาไว้ให้ได้โดยไม่คิดพึ่งพาเงินด่วนเงินร้อนเงินอันตรายจากทางการเหมือนเช่นที่หลายแบงก์/ทรัสต์/ไฟแนนซ์ไปเอามาแล้วลงเอยจบเห่ ถูกทางการยึดก่อนปิดกิจการไปเมื่อไม่สามารถเพิ่มทุนได้ โศกนาฏกรรมนี้ได้พิสูจน์ว่า ชาตรี โสภณพนิช เป็นนายแบงก์/เจ้าสำนักผู้หนึ่งที่สุดยอดยิ่งใหญ่สามารถรักษากิจการแบงก์ยักษ์เอาไว้ได้
สมควรแก่การคารวะ..ยกย่อง นักต่อสู้ผู้ยิ่งใหญ่ ให้ปรากฏเป็นแบบอย่างแก่ชนรุ่นหลัง เจ้าสัวชาตรี ได้แสดงให้เห็นว่าเกิดเป็นคนมีตังค์มีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบก็ใช่ว่าจะสุขสบายไม่ต้องเผชิญความเสี่ยงความทุกข์ซะเมื่อไหร่กัน เหมือนดังคำพังเพยว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว และขอถือโอกาสที่เขาหาชีวิตไม่แล้วนี้แสดงความอาลัยยิ่ง !