พักตัวระยะสั้นยังไม่เสียหาย

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกในภาพรวมยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นนะครับ แม้ว่าดัชนี MSCI ACWI จะปรับตัวลดลง 0.61% แต่ “นายหมูบิน” ยังคงมองว่าทิศทางของตลาดหุ้นโลกยังคงไปต่อได้ เนื่องจากในทางเทคนิค ดัชนี S&P500 ของสหรัฐ, Stoxx50 ของยุโรป และ NIKKEI ของญี่ปุ่น ต่างยังคงเคลื่อนไหวอยู่เหนือกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้น และ Indicator สำคัญอย่าง RSI ยังคงมีสัญญาณ Positive Convergence สะท้อนให้เห็น Momentum ขาขึ้นของตลาดหุ้นโลก และภูมิภาคชัดเจน โดยตลาดหุ้นสหรัฐยังคงเป็นตลาดหุ้นที่ Outperform ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.58% จากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ เช่น แอปเปิล หลังจากที่แอปเปิลสามารถทำสถิติเป็นบริษัทจดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึง TESLA ที่ผลประกอบการดีเช่นกัน ขณะที่อัตราการว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดสู่ระดับ 3.9%

ส่วนตลาดหุ้นอื่นๆ ที่ Underperform อย่างตลาดหุ้นยุโรป, ญี่ปุ่น, Asia Ex-Japan และไทย ก็ปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นราว -0.04%, -1.42%, -0.35% และ -0.02% ตามลำดับ มีเพียงตลาดหุ้นจีนเท่านั้นที่ปรับตัวลงมากที่สุดราว 3.58% เนื่องจากได้รับประเด็นกดดันจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯที่ทวีความรุนแรงมาก โดยสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติม 25% วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนลอตแรกในอัตรา 25% วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อเดือนที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ตอบโต้สหรัฐในวิธีการเดียวกัน ออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐในอัตราและวงเงินที่เท่ากัน

อย่างไรก็ดีความผันผวนในระยะสั้นของตลาดหุ้นโลกน่าจะเกิดขึ้นต่อเนื่องได้บ้าง เนื่องจากล่าสุดดัชนี VIX Index ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนความผันผวนของนักลงทุนในตลาด โดยเป็นการหาค่า Volatility (ค่าความผันผวน) ผ่าน Option ซึ่งล่าสุดดัชนี VIX Index ของสหรัฐ ยุโรป และฮ่องกง เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ทุกเส้น และ Indicator สำคัญของดัชนีดังกล่าวอย่าง RSI กลับมามีสัญญาณ Negative Convergence สะท้อนให้เห็นถึงความกลัวของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นชัดเจน

Downside เริ่มจำกัด : ทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐยังคงมีโอกาสที่จะเข้ามาช่วยจำกัด Downside Risk ของตลาดหุ้นโลกในภาพรวมอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้าจาก AAII ที่ระบุว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา 2-8 ก.ย.2561 สัดส่วนนักลงทุนที่ยังคงเชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น หรือ Bullish เพิ่มขึ้น 7.3% WoW มาอยู่ที่ระดับ 36.4% เทียบกับสัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐกำลังกลับสู่แนวโน้มขาลง หรือ Bearish ที่ลดลง 1.0% WoW มาอยู่ที่ระดับ 31.0%

ขณะที่ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสเงินต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อหุ้นสุทธิอีกครั้งต่อเนื่องทุกวันตลอดสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ส่งผลให้ในเชิงเทคนิคดัชนี Accumulated Foreign Fund Flow ยังคงมีสัญญาณ Buy Signal โดย Indicator สำคัญอย่าง MACD ยืนยันด้วยสถานะ Positive Divergence ขณะที่ในเชิงของปัจจัยพื้นฐาน โดยเฉพาะในเชิงของผลตอบแทนพบว่าตลาดหุ้นไทยดูดีกว่าตลาดหุ้นสหรัฐชัดเจน

ล่าสุด Earnings Yield Gap ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจเลือกลงทุนในจังหวะที่ตลาดหุ้นราคาน่าสนใจ ซึ่งจะประเมินด้วยการเอา Earning Yield (1/PE Ratio) ณ ปัจจุบันของตลาดหุ้นมาลบด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี แล้วเทียบว่าค่า Earning Yield Gap ที่หาได้ในปัจจุบันมากกว่าหรือน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทั้งนี้ค่าที่ได้น้อยกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต สะท้อนว่าตลาดหุ้นนั้นแพงเกินไป หรือ Overvalued เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต ในทางตรงกันข้าม ถ้าค่าที่ได้มากกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต สะท้อนว่าตลาดหุ้นนั้นถูกเกินไป หรือ Undervalued เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า Earnings Yield Gap ของตลาดสหรัฐอยู่ที่ระดับ 1.84% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลังที่ระดับ -1.2 SD ขณะที่ Earnings Yield Gap ของตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ระดับ 3.08% ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) : ใช้โอกาสที่ SET ดีดตัวขึ้นไม่ผ่าน 1,750 (+/-5) จุด เป็นโอกาสในการ “ขายทำกำไร” ในลักษณะ “Short-Against” ไปรอ “เข้าซื้อสะสม” ในหุ้น PTTGC, PTTEP, BCP, EGCO, TISCO, SCC, HMPRO, AOT และ ADVANC อีกครั้ง สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ระดับ 75% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/wealthhuntersclub และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆ ยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ในรายการ ”เซียนเศรษฐกิจ” ทาง FM 101 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.00-12.00 น.เช่นเดิมครับ

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club