ประมูลดิวตี้ฟรีถูกติงไม่ฟรีจริง ห่วงจะกลายเป็นเรื่องผูกขาด ขนาดนายกฯ ออกโรงส่งผ่านคมนาคมทบทวน สุดท้าย AOT แถลงประกาศเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ด้านนักวิเคราะห์ ย้ำแม้การประมูลจะถูกชะลอออกไปแต่หุ้น AOT ยังมีช่องว่างให้ซื้อได้ ตั้งเป้าหมาย 75 บาท
กรณีการเปิดประมูล พื้นที่เชิงพาณิชย์ และพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร หรือ ดิวตี้ฟรี ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ ที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.เลือกใช้รูปแบบเปิดประมูล แบบสัญญาเดียว และรวบสัญญาดิวตี้ฟรีท่าอากาศยานทั้ง 4 แห่ง ที่จ่อเปิดขายซองวันที่ 19 มีนาคม 2562 เป็นอันเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด หลังจากเมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งสัญญาณห่วงใยกับกระแสที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก
โดยรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่านายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้รับฟังข้อห่วงใยจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการผูกขาด จึงอยากให้คณะกรรมการ ทอท. และผู้บริหาร ทอท. พิจารณาทบทวนแนวทางการประมูลดังกล่าว โดยคำนึงถึงข้อท้วงติงของสังคมและประโยชน์ที่ ทอท. และประเทศชาติจะได้รับอย่างรอบด้าน โดยมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปติดตามกำกับดูแลและร่วมหาแนวทางที่ดีที่สุดกับ ทอท.โดยเร่งด่วน
ทั้งนี้ รัฐมนตรีคมนาคมระบุว่า นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.จะต้องกลับไปหารือกับบอร์ด ทอท. เพื่อให้พิจารณารูปแบบการประมูล 2 โครงการใหม่ โดยนำข้อห่วงใยของทุกภาคส่วนไปประกอบการพิจารณาด้วย นอกจากนี้ ทอท.ต้องไปหารือกับกระทรวงการคลังว่าจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 หรือไม่ หากไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ดังกล่าว
รัฐมนตรีคมนาคมกล่าวว่า กระทรวงการคลังจะต้องพิจารณาว่า ทอท.ต้องทำตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการกลาง 4 ฝ่าย หรือไม่ “ถ้าไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนปี 62 ก็ต้องตั้งคณะกรรมการกลาง เพื่อจัดทำกลไกการให้เอกชนเข้ามาใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินให้เกิดความโปร่งใส โดยจะต้องสรุปผลเสนอให้ ครม.พิจารณาภายใน 30 วัน”
แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ยืนยันว่า ก่อนที่จะเปิดประกาศเชิญชวนให้เอกชนเข้ามาดำเนินการในร้านค้าปลอดอากร ใน 4 สนามบิน และร้านค้าเชิงพาณิชย์ ในสนามบินสุวรรณภูมิที่มีขึ้นในวันที่ 19 มีนาคม 2562 นั้น ทอท.ได้ศึกษาอย่างรอบด้านแล้ว ซึ่งทั้ง 2 โครงการ ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมลงทุนปี 2562 และได้ดำเนินการตามมติ ครม. ที่ต้องตั้งคณะกรรมการกลางอย่างครบถ้วนแล้ว
แต่เมื่อรัฐบาลแสดงความห่วงใยล่าสุดลงมา ทำให้ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ต้องเปิดแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 18 มีนาคม 2562 ประกาศเลื่อนการขายซองดิวตี้ฟรี 19 มีนาคมนี้ ออกไปก่อน
“ทอท.เลื่อนขายซองออกไปอย่างไม่มีกำหนด รอให้อีกฝั่งที่ไม่เห็นด้วยแย้งมาก่อน ส่วนเรื่องข้อกังวลของรมว.คมนาคมย้ำว่าทำรอบคอบทั้งหมดแล้ว ดิวตี้ฟรี ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุน ปี 2562 และ ทอท.มีการจัดตั้งคณะกรรมการกลางเข้ามาตรวจสอบกระบวนการประมูลแล้ว”
สำหรับการประมูลดิวตี้ฟรีนี้ มีผลต่อราคาหุ้น AOT ในตลาดหุ้นด้วย โดยก่อนวันขายซองประมูล 19 มีนา นั้นบริษัทหลักทรัพย์เอเชียเวลท์ ได้วิเคราะห์ และให้ความเห็นว่านักลงทุนสามารถซื้อหุ้น AOT โดยหวังประเด็นการประมูลดิวตี้ฟรีได้ว่าจะส่งผลต่อราคาหุ้น 4-5 บาท และมีเป้าหมายไปถึง 70 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้มองว่า สัมปทานรอบนี้ AOT จะได้รับ “ค่าตอบแทนขั้นต่ำ” สูงกว่าสัญญาเดิมที่ทำกับ King Power อย่างน้อย 15% โดยการประมูลทั้งโครงการ นี้ตามกำหนดเดิมคาดว่าจะรู้ผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562
"สัดส่วนรายได้จากสัมปทานร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 28% ของรายได้ทั้งหมด ในขณะที่รายได้ค่าเช่าร้านค้าเชิงพาณิชย์คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 4% ของรายได้
ทั้งหมด ภายใต้สมมติฐานค่าตอบแทนขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 15-20%
อย่างไรก็ตาม การเลื่อนขายซองประมูลออกไปอย่างไม่มีกำหนดตามที่ ผอ.ทอท.กล่าว แม้สร้างความกังวลบ้าง แต่หุ้น AOT ในกระดานก็ยังสามารถยืนในแดนบวกได้ ขณะที่ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง ให้ความเห็นว่า หุ้น AOT จะยังคงเป็นหุ้นที่น่าสนใจซื้อเก็งกำไรได้อยู่เช่นเดิม โดยมีการวางกรอบราคาเป้าหมายไว้ที่ 75 บาท
“วันที่ 18 มีนาคม AOT ประกาศชะลอการประมูลสัมปทาน หลังจากกระทรวงคมนาคมขอให้ ทอท.ทบทวนแผนการประมูล โดยจะชะลอขั้นตอนการประมูลออกไป 2 สัปดาห์ หากไม่มีปัญหาหรือข้อกังวลใหม่ AOT จะดำเนินการประมูลต่อไป แต่ผลการประมูลน่าจะล่าช้าจากเดิมที่คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนพฤษภาคมไปเป็นเดือนกันยายน 2562 ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่อยู่ในกรอบ
จึงคงคำแนะนำซื้อ ด้วยราคาเป้าหมายที่ 75 บาท โดยมีปัจจัยบวกระยะสั้น ได้แก่ การประกาศดำเนินการประมูลร้านค้าปลอดอากรต่อ และผลประกอบการไตรมาสต่อไป (2QFY19) ซึ่งเราคาดว่ากำไรหลักจะทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของไทย ความเสี่ยงในมุมมองของเรา ได้แก่ การชะลอตัวของผู้โดยสารระหว่างประเทศและความล่าช้าในการขยายโครงการ
ทั้งนี้ บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง มองว่า ยังคงจะมีการประมูลแบบ สัญญาเดียว รายเดียว แบบเดิม แม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้ขอให้ AOT ทบทวนแผนการทำสัญญาสัมปทานร้านค้าปลอดอากร ณ สนามบิน 4 แห่ง (สุวรรณภูมิ เชียงใหม่ ภูเก็ตและหาดใหญ่) เนื่องจากปัญหาการผูกขาด นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ ชี้แจงเหตุผลของการให้สัมปทานสัญญาเดียว รายเดียวว่า หากแยกประมูล สนามบินเล็กทั้งสามแห่ง (คิดเป็นเพียง 16% ของรายรับสัมปทานทั้งหมด) อาจไม่ได้รับความสนใจจากผู้ประมูลที่มีศักยภาพเพราะมีขนาดเล็กและไม่มีอำนาจต่อรอง ในขณะเดียวกันการสัมปทานรายเดียวมีความเหมาะสมกับ AOT เทียบกับการแบ่งตามสัมปทานผลิตภัณฑ์ เนื่องจากผู้ประกอบการร้านปลอดภาษีอาจมีปัญหาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของผู้โดยสาร (passenger flow)
“ในประเด็นที่เกี่ยวกับการผูกขาด AOT จะเปิดการประมูลสำหรับเคาน์เตอร์รับสินค้าปลอดภาษี ซึ่งผู้ชนะจะต้องจัดเตรียมเคาน์เตอร์รับสินค้าสำหรับผู้ประกอบการปลอดภาษีรายอื่น ๆ ประเด็นนี้น่าจะขจัดความกังวลในเรื่องการผูกขาด ขั้นตอนต่อไป AOT จะเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ หากไม่มีปัญหาใหม่เกิดขึ้น AOT จะดำเนินการประมูลต่อในสองสัปดาห์ข้างหน้า การประมูลล่าช้าเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในกรอบเวลา การประมูลที่ล่าช้าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการคาดการณ์ของเรา เนื่องจากเราจะทราบผลการประมูลก่อนสิ้นสุดสัญญาปัจจุบันในเดือนกันยายน 2563 ดังนั้น เราแนะนำให้ซื้อหุ้นในเวลาที่ราคาหุ้นอ่อนตัว”