SUPER ประกาศได้รับการอนุมัติจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน อินฟราสตรัคเจอร์ฟันด์“ SUPEREIF” มูลค่า 8,000 ล้านบาท เป็นช่องทางได้เตรียมนำเงินไปชำระหนี้ ลดต้นทุนทางการเงิน-รองรับแผนขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้าซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (Super Energy Power Plant Infrastructure Fund หรือ “SUPEREIF”) แล้วเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา มูลค่าไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนเป็นผู้ยื่นขอจัดตั้งกองทุน โดยเงินที่ได้รับจากการจัดตั้งกองทุนเพื่อนำไปชำระหนี้และรองรับการขยายงานทั้งในประเทศและต่างประเทศภายในอนาคต
สินทรัพย์ที่จะขายเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานหรืออินฟราฟันด์ จะมาจากสินทรัพย์ที่คณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติก่อนหน้านี้ โดยได้มีการอนุมัติให้บริษัท 17 อัญญวีร์ โฮลดิ้ง (17AYH) และ บริษัท เฮลท์ แพลนเน็ท เมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) (HPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SUPER ทำรายการจำหน่ายสินทรัพย์ในโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 19 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 118 เมกะวัตต์ ให้กับกองทุน รวมทั้งคณะกรรมการยังได้อนุมัติให้บริษัททำธุรกรรมซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนดังกล่าวได้ในสัดส่วน 20-30%
“ผมตั้งใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อสร้างรายได้ และผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งกองทุน IFF เป็นหนึ่งในช่องทางในการขยายการลงทุนของเราในอนาคต รวมทั้งวางแผนในการลดหนี้ ที่มีอยู่ 3-4 พันล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาเราและที่ปรึกษาทางการเงินทำงานเต็มที่ตามกรอบระยะเวลาที่มีอย่างคุ้มค่า เพื่อให้สามารถจัดตั้งกองทุนให้สำเร็จ”
ในส่วนผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2562 คาดว่าการเติบโตมีแนวโน้มแข็งแกร่ง สร้างรายได้ให้เติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีก่อน เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากการขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มในโครงการต่างๆ สนับสนุน โดยเฉพาะในส่วนของโครงการโซลาร์ฟาร์ม และวินด์ฟาร์ม ในเวียดนาม ซึ่งจะเปิดฉาก COD ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้