FTREIT โชว์รายได้ไตรมาส 2/2562 กวาด 718 ล้านบาท
ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน จำนวนทั้งสิ้น 0.1670 บาท ต่อหน่วยทรัสต์
- ผลประโยชน์ตอบแทน 0.1670 บาทต่อหน่วยทรัสต์จากผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2562
- อัตราการเช่า 82.9% และ อายุสัญญาเช่าเฉลี่ยคงเหลือ 2.06 ปี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562
- เสร็จสิ้นการขยายพื้นที่ให้เช่า 1,700 ตารางเมตร สำหรับโรงงาน ณ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ระยอง จังหวัดระยอง
- อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อสินทรัพย์รวมลดลงจาก 23.61% (สิ้นไตรมาสที่ 1/2562) เป็น 22.94% (สิ้นไตรมาสที่ 2/2562)
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ “FTREIT” ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2562 นับจากวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 718 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 78 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการลงทุนสุทธิทั้งสิ้น 463 ล้านบาท เมื่อนับรวมผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (1 ต.ค. 61 - 31 มี.ค. 62) FTREIT มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 564 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 68 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากการลงทุนสุทธิทั้งสิ้น 885 ล้านบาท
นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ“FIRM” (ชื่อเดิมคือ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด หรือ TMAN) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ FTREIT เปิดเผยว่า “สำหรับการเติบโตดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการทรัพย์สินของผู้จัดการกองทรัสต์ (FIRM) ที่มุ่งรักษาอัตราการต่อสัญญาเช่าและอัตราการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้า (Occupancy Rate) ให้อยู่ในระดับที่สูง ซึ่งปัจจุบันกองทรัสต์มีอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงกว่าร้อยละ 80 และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
ล่าสุดประกาศจ่ายผลตอบแทนเทียบเท่าผลตอบแทนที่จ่ายในไตรมาสแรก ที่อัตรา 0.1670 บาทต่อหน่วยทรัสต์ รวมครึ่งปีจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนไปแล้วทั้งสิ้น 0.3340 บาทต่อหน่วยทรัสต์ ด้านการบริหารจัดการเงินทุน ได้ทำการคืนเงินกู้ยืมระยะสั้นจำนวนรวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท โดยใช้เงินสดจากสภาพคล่องส่วนเกินและเงินสดจากการขายทรัพย์สินในไตรมาสแรกมาชำระหนี้ ส่งผลให้อัตราส่วนเงินกู้ยืมที่มีภาระดอกเบี้ยต่อสินทรัพย์รวมลดลงจากประมาณร้อยละ 23.61 (ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561) เหลือเป็นประมาณร้อยละ 22.94 (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562)
“ในครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2562 FTREIT จะทำการพิจารณาลงทุนในทรัพย์สินจากกลุ่มบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทยเพิ่มเติม และจะทำการบริหารจัดการทรัพย์สินให้มีอัตราการเช่าที่อยู่ในระดับที่สูง มีสัดส่วนรายได้และค่าใช้จ่ายที่มีความเหมาะสม สามารถมอบผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนรักษาสถานะกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย”นายพีระพัฒน์ กล่าวปิดท้าย