top of page
379208.jpg

รอความชัดเจนทางการเมือง


ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น !

แม้ว่าทิศทางการพักตัวของตลาดหุ้นโลกในช่วงระยะสั้นที่ผ่านมาจะยังไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ตราบใดที่ดัชนี S&P500 ของสหรัฐยังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วันบริเวณ 2,775 จุดได้ โดยเฉพาะจากการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาผ่อนปรนข้อจำกัดบางส่วนที่กำหนดต่อบริษัท Huawei ของจีนซึ่งจะมีผลบังคับใช้ 90 วัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นโลกถูกกดดันอย่างหนักจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ ซึ่งรุนแรงขึ้นตั้งแต่การประกาศขึ้นภาษีสู้กันระหว่าง 2 ประเทศ โดยที่ล่าสุดจีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้ดำเนินการด้านภาษีต่อจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจีนจะเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2562

มาจนถึงการที่ Alphabet ได้ระงับการทำธุรกิจกับ Huawei Technology ซึ่งส่งผลให้สมาร์ทโฟนของ Huawei ไม่สามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ตลอดจนเข้าถึงแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง Google Play Store, Gmail และ YouTube ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ Google ได้ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป และเทคโนโลยีปรับตัวลดลงอย่างมากในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นบริษัทที่เป็นซัพพลายเออร์ให้กับ Huawei

อย่างไรก็ดีสถานการณ์ในระยะต่อไปค่อนข้างน่ากังวล โดยที่นักลงทุนยังคงจับตาท่าทีของจีนอย่างใกล้ชิด ว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินการตอบโต้สหรัฐอย่างไร เนื่องจากการกระทำของสหรัฐก่อนหน้านี้ ส่งผลให้สิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายและผลประโยชน์ของบริษัทจีนได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ จะพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน และประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ปูนำรัสเซียในการประชุม G20 ซึ่งการประชุมสุดยอด G20 จะมีขึ้นที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่นในวันที่ 28-29 มิถุนายน 2562

โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าการพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะช่วยผ่อนคลายความขัดแย้งในการเจรจาการค้ากับจีน ขณะที่ในฝั่งของยุโรป ยังคงมีแรงกดดันอยู่จากความไม่แน่นอนของกระบวนการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดย เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีหวังว่ารัฐสภาอังกฤษจะอนุมัติข้อตกลง Brexit ของเธอในการยื่นข้อเสนอใหม่ให้สภาพิจารณาเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งความไม่แน่นอนทั้งหมดส่งผลให้ล่าสุด Credit Default Swap (CDS) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินเพื่อใช้ป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระดอกเบี้ยของตราสารทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นเพียงญี่ปุ่นประเทศเดียวเท่านั้นที่ปรับตัวลดลง

ภาพจะชัดเมื่อมีคณะรัฐมนตรีใหม่เท่านั้น : ในส่วนของตลาดหุ้นไทย “นายหมูบิน” ยังคงมุมมองเดิมในทางเทคนิค ว่าการที่ SET หลุด S-T Uptrend Line บริเวณ 1,650 จุดลงมา เป็นสัญญาณการพักฐานในระยะสั้น โดยที่แนวรับต่อไปจะอยู่ที่ 1,580 จุด ซึ่งทิศทางของ SET จะยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไป และการดีดตัวระยะสั้นเป็นเพียงแค่การ Technical Rebound เพื่อลงต่อเท่านั้น จนกว่าจะมีความชัดเจนออกมาในส่วนของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจชุดใหม่

ทั้งนี้ “นายหมูบิน” ยังคงให้น้ำหนักที่ประเด็นการเมืองเกี่ยวกับหน้าตาของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่มากที่สุด เพราะปัจจัยอื่นๆที่จะนำมาสนับสนุนการดีดตัวขึ้นมีน้อยมาก โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ ที่ดูเหมือนว่าจะกลายมาเป็นปัจจัยกดดันมากกว่าปัจจัยบวก หลังจากที่ตัวเลข GDP ในไตรมาส 1 ของไทยออกมาขยายตัวเพียง 2.8% ชะลอตัวจาก GDP ในไตรมาส 4 ที่ขยายตัว 3.7% ค่อนข้างมาก

ขณะที่ในส่วนของพื้นฐานตลาดหุ้นไทยจริงๆยิ่งดูอ่อนแอเข้าไปอีก หลังจากที่กำไรสุทธิของตลาดหุ้นไทยในไตรมาสที่ 1 ออกมาลดลง 8% YoY

นอกจากนี้สถานการณ์ของตลาดหุ้นโลก ในด้านของความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงอ่อนไหวมาก สะท้อนออกมาจากผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนสหรัฐจาก AAII ที่ระบุว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา สัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้ายังคงเป็นขาขึ้น หรือ Bullish ลดลง 13.30% มาอยู่ที่ 29.80%

ขณะที่สัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้ากำลังกลับเป็นขาลง หรือ Bearish ที่เพิ่มขึ้น 16.10% มาอยู่ที่ 39.30%

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) ใช้โอกาสที่ SET ดีดตัวขึ้นไม่ผ่าน 1,700 (+/-5) จุด เป็นโอกาสในการ “ขายทำกำไร” ในลักษณะ “Short-Against” ไปรอ “เข้าซื้อสะสม” ในหุ้น PTTGC, PTTEP, BCP, EGCO, TISCO, SCC, HMPRO, AOT และ ADVANC อีกครั้ง สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “คงสัดส่วนการลงทุนในหุ้นที่ระดับ 75% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/wealthhuntersclub และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ในรายการ “เซียนเศรษฐกิจ” ทาง FM 101 วันอาทิตย์ เวลา 10.00-12.00 น. และนับจากวันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไปพบกันใน รายการเซียนเศรษฐกิจ ทาง FM 97 ทุกวันอาทิตย์เวลา 14.00-16.00 น. นะครับ

 

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิคราย 120 นาที (120 Mins)

Source: Wealth Hunters Club

23 views
bottom of page