Interview: Mr.Messenger l DOKBIA RADIO FM97
ราคาน้ำมันที่เป็นขาลง มองยังไง
มองเรื่องน้ำมันว่าเป็นเรื่องสนุก มองเป็นเรื่องเกมการเมืองนิดนึง จะเห็นว่าอเมริกาไปคว่ำบาตรอิหร่านตั้งแต่ยกเลิกข้อตกลงนิวเคลียร์ กลายเป็นว่าซาอุดีอาระเบียก็มาบอกอิหร่านและประชาชนทั่วโลกว่าเดี๋ยวจะเพิ่มกำลังการผลิตแทนอิหร่านที่หายไป ต้องถามว่าคนที่เป็นพันธมิตรซาอุดีอาระเบียมาอย่างยาวนาน คืออเมริกา พอ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมากลายเป็นว่าตัว EIA สำรองน้ำมันดิบในอเมริกาสูงขึ้นมา มีการผลิตน้ำมันเพิ่ม
แสดงว่าเกมกับอิหร่านนั้น อเมริกาหรือทรัมป์กำลังพยายามทำนโยบายเพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือเปล่า เพราะอย่างที่เรารู้คือพรรคริพับลิกันได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มทุนพวก Energy อยู่แล้ว ราคาน้ำมันลงมาต่ำหน่อยก็ไม่เป็นไร เพราะ Shell Oil หรือ Shell Gas ในอเมริกาก็ถูกผลิตออกมาได้ในต้นทุนต่ำลง และน้ำมันดิบอเมริกามีคุณภาพน้ำมันดีกว่าโดยเปรียบเทียบ คือน้ำมันดิบมีคุณภาพที่สูงกว่า
ในมุมนี้แสดงให้เห็นว่าการที่ทรัมป์กล้าทำนโยบายแล้วทำให้กำลังการผลิตอเมริกาเพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นแล้วว่า ต้นทุนการผลิตของ Shell Oil หรือ Shell Gas ของอเมริกาอาจจะลงมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์เคยประเมินไว้เมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว ตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 65-70 เหรียญ คิดว่าวันนี้อยู่ต่ำกว่า 60 เหรียญ แล้วราคาน้ำมันลงมาจะดียังไง
ในมุมของผมคือ ดีตรง Impression ขึ้นไม่ได้แน่นอน ถ้าโลกไม่มี Impression สิ่งที่ตามมาคือธนาคารกลางทั่วโลกจะไม่มีแรงกดดันในการขึ้นดอกเบี้ย ช่วงนี้เศรษฐกิจชะลออยู่แล้ว ถ้าเงินเฟ้อยังไม่ดี เศรษฐกิจยังชะลออยู่แบบนี้ ก็ไม่ต้องคิดถึงการขึ้นดอกเบี้ย เลยเห็นตรงกันว่าดอกเบี้ยมีแต่ทรงกับลง บรรยากาศแบบนี้เรียกว่าเศรษฐกิจไม่ดี คนคาดหวังถึงการกระตุ้น พอเศรษฐกิจดีแปลว่าหุ้นวิ่ง ในมุมผมคือด้วยเหตุผลหรือวิธีการมองราคาน้ำมันเชื่อว่ามันสนับสนุนให้การลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์เสี่ยงน่าจะให้ผลตอบแทนที่สูง
ในด้านราคาทองคำ คาดการณ์แนวโน้มเป็นอย่างไร
เมื่อหลายวันก่อนทองคำทะลุขึ้นมา 1,300 เหรียญ สาเหตุหลักคือเรื่อง Trade War คนกังวลว่าจะมีแรงเทขายหรือเปล่า แต่ถ้าไปดูอีกมุมหนึ่งมีความน่าสนใจตรงที่เงินดอลลาร์ไม่ได้อ่อนค่าลงมาเลย ปกติทองจะวิ่งได้ดีเมื่อค่าเงินดอลลาร์อ่อน ถ้าเมื่อไหร่ทองวิ่งแล้วเงินดอลลาร์แข็งต่อเนื่องแสดงว่าตลาดไม่อยากเห็นเรื่องความเสี่ยง การที่ทองวิ่งอยู่ ขณะที่ดอลลาร์ยังแข็ง แสดงว่าคนอยากหลบความเสี่ยงระยะสั้น คือขายสินทรัพย์ ขายหุ้น แล้วมาถือดอลลาร์ มาถือทอง
แต่ภาวะแบบนี้ที่เกิดขึ้นแบบนี้เป็นภาวะที่เกิดขึ้นไม่นาน ระยะแค่ 1-2 เดือน ความเสี่ยงหรือความกังวลจะหายไป ส่วนใหญ่ก็จะกลับทิศ คือดอลลาร์จะแข็งต่อทองก็จะร่วง เพราะฉะนั้นทองน่าจะมีไว้เพื่อป้องกันความเสี่ยงเท่านั้น แต่ถ้าใครบอกว่า 1,300 แล้วแล้วจะ 1,400-1,500 หรือเปล่า ถ้าจะหวังอย่างนั้นคงต้องแช่งให้เศรษฐกิจโลกพัง ซึ่งไม่ควร เพราะถ้าเศรษฐกิจโลกพังแล้วเรายังถือหุ้นอยู่แปลว่าพอร์ตเราจะมีปัญหา