BPP ประกาศลงทุนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐ มูลค่าการลงทุนรวม 16,060 ล้านบาท
ดร.กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ หรือ BPP ชี้แจง บริษัท Temple Generation Intermediate Holdings II, LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BPP ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น (Purchase and Sale Agreement) กับบริษัท CXA Temple 2 Holdco, LLC เพื่อเข้าซื้อหุ้น 100% ในบริษัท CXA Temple 2, LLC ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple II ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา โดยมีมูลค่าการลงทุนรวม 460 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่า 16,060 ล้านบาท (เป็นเงินลงทุนของ BPP ตามสัดส่วนการลงทุน 230 ล้านดอลลาร์ หรือเทียบเท่า 8,030 ล้านบาท) เป็นที่เรียบร้อยเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้วเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา
Temple II เป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีขนาดกำลังการผลิต 755 เมกะวัตต์ (คิดเป็นกำลังการผลิตของ BPP ตามสัดส่วนการลงทุน 377.5 เมกะวัตต์) เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือนสิงหาคม 2558 ตั้งอยู่ติดกับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Temple I ซึ่งเป็นรัฐที่มีความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องจากการเติบโตของเศรษฐกิจ การขยายตัวของเมือง และการเติบโตของจำนวนประชากร ทั้งยังเป็นรัฐที่เป็นแหล่งทรัพยากรพลังงานมากมาย โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เทคโนโลยี Combined Cycle Gas Turbines หรือ CCGT ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง มีความยืดหยุ่นในการเดินเครื่อง อยู่ในลำดับการเรียกจ่ายไฟฟ้า (merit order) ที่ดี ซึ่งสอดรับกับสภาพและการแข่งขันในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรีของ Electric Reliability Council of Texas หรือ ERCOT
นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการควบคุมการปล่อยมลภาวะ ทำให้โรงไฟฟ้าแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ BPP ได้เข้าลงทุนใน Temple I เมื่อปลายปี 2564 และเริ่มดำเนินธุรกิจค้าปลีกไฟฟ้าในรัฐเท็กซัส ซึ่งการลงทุนใน Temple II ในครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดธุรกิจไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา และช่วยสร้างการผนึกกำลังร่วม โดยได้ประโยชน์จากสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่ง ทำให้สามารถบริหารจัดการโรงไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นและเสถียรภาพในการผลิตไฟฟ้าทำให้สามารถสร้างโอกาสในการทำกำไรในตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่มีการแข่งขันเสรี และสามารถใช้ทรัพยากรร่วมกันให้ได้ประโยชน์สูงสุดทำให้เกิดการประหยัดต่อขนาด
การมีกำลังผลิตเพิ่มเติมยังช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบในการบริหารจุดคุ้มทุน ช่วยกระจายความเสี่ยงด้านธุรกิจไฟฟ้าที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่อุปทาน อีกทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วจึงสามารถสร้างกระแสเงินสดได้ทันที ถือเป็นการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทเพื่อให้บริษัทบรรลุเป้าหมายกำลังการผลิต 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568
Комментарии