ออมสิน ปล่อยกู้สินเชื่อเสริมพลังฐานราก รายละไม่เกิน 5 หมื่น
ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ประคอง “คนมีรายได้ประจำ-อาชีพอิสระ”
ธนาคารออมสิน เปิดตัว “สินเชื่อเสริมพลังฐานราก” ตามติครม. ลุยปล่อยกู้เติมสภาพคล่องพ่อค้าแม่ค้า-ผู้มีอาชีพอิสระ-คนมีรายได้ประจำ ถูกกระทบจากCovid-19 ให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท พร้อมคลายเงื่อนไข ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน และปลอดชำระหนี้ 6 งวดแรก ลงทะเบียนยื่นกู้ได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ได้ตั้งแต่บัดนี้
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 ได้มีมติเห็นชอบปรับปรุงการดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีรายได้ประจำที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา (Covid-19) วงเงิน 20,000 ล้านบาท ที่ธนาคารออมสินได้ดำเนินการปล่อยกู้ไปเมื่อเดือนเมษายน 2563 ซึ่งธนาคารอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 1,012 ล้านบาท และยังมีวงเงินสินเชื่อคงเหลืออยู่อีกจำนวน 18,988 ล้านบาท จึงให้ปรับปรุงแนวทางช่วยเหลือแก่ประชาชนให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและครอบคลุมประชาชนผู้ประกอบอาชีพทุกกลุ่ม เห็นควรปรับปรุงการดำเนินโครงการด้วยการจัดสรรวงเงิน 10,000 ล้านบาท จากวงเงินเดิมที่เหลืออยู่ นำมาปล่อยกู้ผ่าน “สินเชื่อเสริมพลังฐานราก” ภายใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรน โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนยื่นขอสินเชื่อได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2563
สำหรับสินเชื่อประเภทนี้ต้องการช่วยเหลือบุคคลที่มีอาชีพค้าขาย ประกอบอาชีพอิสระ และผู้มีรายได้ประจำรวมถึงบุคคลในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของCovid-19 ทำให้รายได้ลดลงหรือขาดรายได้ ด้วยเป็นสินเชื่อเพื่อการดำรงชีพ เพื่อการลงทุน/หมุนเวียนในกิจการ ให้วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน (Flat Rate) ระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ไม่เกิน 3 ปี ที่สำคัญไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันเงินกู้ อีกทั้งยังปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย หรือไม่ต้องชำระเงินงวดใน 6 เดือนแรกอีกด้วย
“การแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา (Covid-19) ยังคงส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่มีอาชีพอิสระและผู้มีรายได้ประจำ ธนาคารออมสินจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสินเชื่อเสริมพลังฐานรากที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ธนาคารออมสินเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว จะเป็นการบรรเทาสถานการณ์ที่เดือดร้อนลงได้ไม่มากก็น้อย” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวในที่สุด.
Comentários