top of page

PTT ขาดทุนสต็อกน้ำมัน โดนเหนาะๆ 3.56 หมื่นล้าน...ทำ Stress Test รับมือวิกฤต

ปตท. ประกาศมีความพร้อมรับมือความท้าทายเศรษฐกิจโลกผันผวน

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. หรือ PTT เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไปทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกต้องหยุดชะงัก ประกอบกับกลุ่มโอเปกและพันธมิตรไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตด้วย จนทำให้เกิดภาวะอุปทานล้นตลาด ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลงจาก 67.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงต้นไตรมาส 1/ 2563 มาอยู่ที่ 23.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงสิ้นไตรมาส 1/2563 ทำให้กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีผลประกอบการลดลง จากการขาดทุนสต็อกน้ำมันอยู่ที่ 35,695 ล้านบาทตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงมากอย่างรวดเร็ว และจากส่วนต่างของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีทั้งโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์กับวัตถุดิบที่ลดลง ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจพลังงาน จึงทำให้ผลประกอบการโดยรวมของ ปตท. ในไตรมาสแรกของปี 2563 ที่ผ่านมาปรับลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม นายชาญศิลป์ ยังคงเชื่อมั่นว่า PTT จะสามารถรับมือช่วงสถานการณ์วิกฤต ด้วยการบริหารจัดการการทำธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ พร้อมปรับรูปแบบการดำเนินงานอย่างเหมาะสม

สรุปผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 483,567 ล้านบาท ลดลง 67,307 ล้านบาท คิดเป็น 12.2% เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาสของ 1/2562 และมีกำไรจากการดำเนินงาน EBITDA อยู่ที่ 32,385 ล้านบาท ลดลง 59.8% จากไตรมาส 1/2562

สาเหตุหลักจากผลประกอบการที่ลดลงของกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ได้รับผลกระทบสูงจากการขาดทุนสต็อกน้ำมันตามที่กล่าวข้างต้น

สำหรับกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานลดลง เป็นผลจากราคาและปริมาณการขายของโรงแยกก๊าซฯ และราคาขายที่อ้างอิงราคาน้ำมันเตาในกลุ่มอุตสาหกรรมลดลง ส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจน้ำมันก็ลดลงจากการขาดทุนของสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและปริมาณขายที่ลดลง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันของอุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลก ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดเมืองของหลายประเทศ ส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันในการเดินทาง และการขนส่ง

ในขณะที่การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมกลับมีปัจจัยเชิงบวก จากการเข้าซื้อ บริษัท โกลว์ พลังงาน (GLOW) ของ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) รวมถึงธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นจากรายได้การขายที่เพิ่มขึ้นของบริษัท Murphy Oil Corporation และ บริษัท Partex Holding B.V. ของ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจัยภายนอกจะส่งผลให้ผลประกอบการ PTT ในช่วงไตรมาสแรกลดลง กลุ่ม ปตท. ยังเชื่อมั่นถึงศักยภาพความรวดเร็วขององค์กรในการปรับตัวเพื่อลดผลกระทบทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมัน โดยมีมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายตามนโยบาย “ลด ละ เลื่อน” ในการบริหารจัดการการทำธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ การบริหารสภาพคล่องทางการเงิน บริหารความเสี่ยงด้านราคา ด้านอุปสงค์ อุปทาน สินค้าคงคลัง รวมถึงบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและงบประมาณองค์กรอย่างเคร่งครัด

นอกจากนั้น ยังได้ทำการทดสอบความสามารถการรับวิกฤตและความท้าทายในรูปแบบต่างๆ (Stress Test) และ แผนการบรรเทาผลกระทบ (Mitigation Plans) รวมถึงจัดตั้งทีม PTT Group Vital Center เพื่อวางแผนและบริหารจัดการภาพรวมของกลุ่ม รับมือช่วงสถานการณ์วิกฤต พร้อมปรับรูปแบบการดำเนินงานเพื่อให้กลุ่ม ปตท. สามารถเตรียมรับทุกสถานการณ์ในอนาคต และให้ทุกภาคส่วนมั่นใจในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวเดินหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน

6 views

Comments


bottom of page