top of page
379208.jpg

AIRA ท็อปฟอร์ม

ไอร่า แคปปิตอล (AIRA) ผลการดำเนินงานเทิร์นอะราวด์ จากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจในเครือสร้างผลตอบแทนตามเป้าที่วางไว้ หลังจากนี้จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยว พร้อมตอกย้ำ AIRA Group การเป็น Holding Company ที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (รีเทิร์นอินเวสเมนต์) ให้กับผู้ถือหุ้นสูง

บริษัท ไอร่า แคปปิตอล หรือ AIRA แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงผลการดำเนินงานงวดปี 2564 กลับมามีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท จากปีก่อนขาดทุน 76 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 1,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% ถือเป็นปีที่ AIRA Group มีความโดดเด่นและมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทสามารถปรับตัวดีขึ้นสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอย่างสิ้นเชิง

ทั้งนี้ สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากการรับรู้รายได้จากค่านายหน้า กำไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงิน และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ โดยมีส่วนรายได้ 632 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากปริมาณการซื้อขายของลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น

ขณะที่รายได้จากการให้เช่าและบริการ จำนวน 191 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้ค่าเช่าจากสัญญาเช่าดำเนินงานของธุรกิจลีสซิ่ง 64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบจากปีก่อน และรายได้ค่าเช่าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยรายได้ค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากอาคารสำนักงานให้เช่าที่ดำเนินการในนาม บจก.แอสไพเรชั่น วัน ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดดำเนินการให้เช่าพื้นที่ได้ตั้งแต่ปี 2563 โดยมีอัตราการเช่าที่เพิ่มขึ้นตามแผนงานที่วางไว้

ส่วนผลการดำเนินของบริษัทร่วมที่ทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล สำหรับปี 2564 มีรายได้รวม 1,665 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 302 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 56 ล้านบาท ซึ่ง AIRA รับรายได้ส่วนแบ่งเงินลงทุน 30% คิดเป็นกำไรจากส่วนแบ่งเงินลงทุน 90 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวโดยตรงทำให้มีผลขาดทุนเล็กน้อย

พร้อมกันนี้ บริษัทมีการบันทึกกำไรจากเงินปันผลของบริษัทย่อย 2 บริษัท ที่ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ประจำปี 2564 เป็นเงินรวม จำนวน 108.92 ล้านบาท จาก บริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง ที่จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.025 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 28.62 ล้านบาท และบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.073 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 80.30 ล้านบาท โดยเงินปันผลดังกล่าวจะบันทึกรับรู้เป็นกำไรเข้ามาในไตรมาส4/2564

ทุกบริษัทในเครือ AIRA Group ได้มีการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการด้านต้นทุนทางการเงินและควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับการดำเนินงานของบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจหลักมีการเติบโตและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญหลังจากที่ AIRA Group ได้มีการขยายการลงทุนในแต่ละธุรกิจในแต่ละช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไปจะเริ่มเข้าสู่ปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิตของธุรกิจในเครือ

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า AIRA Group เป็น Holding Company ที่ให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (รีเทิร์นอินเวสเมนต์) ให้กับผู้ถือหุ้นสูง ประกอบกับมีศักยภาพความแข็งแกร่งทางการเงิน โดย ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีกระแสเงินสด ที่สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทเป็น Non-Bank บริษัทเดียวที่ได้รับความเชื่อมั่นจากบริษัทชั้นนำระดับโลกที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ผ่านการร่วมลงทุนในแต่ละธุรกิจ โดยกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวอยู่ในระดับ TOP 3 ของ กลุ่มอุตสาหกรรมแต่ละประเทศ อาทิ บริษัท AIFUL Corporation ประเทศญี่ปุ่น, บริษัท Eugene Investment &Securities ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทการเงินและวัสดุก่อสร้างชั้นนำจากประเทศเกาหลี, บริษัท Kenedix Asia Private Limited บริษัทจัดการกองทุนและบริหารสินทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น, NEC Capital Solutions Limited (NECAP) บริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเงินของประเทศญี่ปุ่น หรือแม้แต่ Travelex จากอังกฤษ ที่ดำเนินธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการให้บริการด้านการเงินที่ครอบครบในทุกมิติ

6 views

Comentarios


bottom of page