top of page

มั่นใจ! ค่ายรถไม่ย้ายฐาน


ยอดขายรถของไทยทั้งในประเทศและส่งออก ตปท. ลดลงอย่างต่อเนื่องหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายค่ายหยุดการผลิตชั่วคราว หลายค่ายลดกำลังการผลิต ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อแรงงานในอุตฯ ยานยนต์ที่ต้องตกงาน หรือพักงานชั่วคราว รวมถึงอุตฯ ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ออร์เดอร์ลดฮวบ ถึงขั้นปิดโรงงานไปตามๆ กัน ด้านโชว์รูมขายรถมีผู้ซื้อโหรงเหรง ต้องปรับกลยุทธ์ ปรับการขายผ่าน Live สด ช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยมีการจัดแคมเปญพิเศษ แต่ยอดขายก็ไม่กระเตื้องเท่าที่ควร คาดเป้าขายรถทั้งในและนอกประเทศต้องปรับลงจากเดิมแน่นอน แต่มั่นใจ...ค่ายรถยนต์จะไม่ย้ายฐานการผลิตจากไทย อย่างมากแค่ย้ายการผลิตรถบางรุ่นไปประเทศอื่น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงเท่านั้น

วิกฤตโควิด-19 ที่ระบาดในประเทศไทยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา เริ่มส่งผลกระทบต่อธุรกิจทุกภาคส่วน ธุรกิจต่างๆ ต้องปิดธุรกิจชั่วคราวทำให้เศรษฐกิจในประเทศหดตัวลง ซึ่งรวมไปถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เช่นกัน เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่มีกำลังซื้อและถึงผู้บริโภคบางกลุ่มชะลอการใช้จ่าย

แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมยานยนต์รายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งตลาดรถยนต์โดยรวมในปี 2562 มียอดจำหน่ายประมาณ 1 ล้านคัน ลดลง 3% เมื่อเทียบปี 2561 และเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนมกราคม 2563 มียอดจำหน่ายประมาณ 70,000 คัน ลดลงประมาณ 8% จากช่วยเดียวกันของปีก่อนหน้า ต่อมาเมื่อเข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ตลาดรถยนต์เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 มียอดจำหน่ายประมาณ 60,000 คัน หรือลดลง 17.1% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม

นอกจากนั้น ผลกระทบไม่ได้จำกัดวงเพียงยอดจำหน่ายที่ลดลงเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อสายพานการผลิตของโรงงานผลิตรถยนต์แต่ละค่ายอีกด้วย เช่น ฮอนด้า อีซูซุ นิสสัน ต้องหยุดการผลิตชั่วคราว ทำให้พนักงานต้องหยุดงานเป็นการชั่วคราวตามไปด้วย ขณะที่ค่ายรถยนต์บางรายที่ไม่มีการหยุดผลิตรถยนต์แต่ก็มีการปรับจำนวนการผลิตรถยนต์ลดลงเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนยอดขายที่ลดลงตามไปด้วยเช่นกัน

“ยิ่งในช่วง ที่รัฐบาลประกาศให้มีการใช้มาตรการเคอร์ฟิวในช่วงกลางคืนและตามมาด้วยการปิดเมืองในแต่ละจังหวัด ยิ่งทำให้ตลาดรถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และรวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ที่ต้องหยุดกิจการชั่วคราวเพราะไม่มีคำสั่งซื้อเข้ามา ก็ต้องยอมรับว่ามาตรการเคอร์ฟิวและการปิดเมืองที่ภาครัฐใช้นับว่าเป็นเรื่องดี ทำให้ตัวเลขของผู้ติดเชื้อมีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่การขายรถยนต์ก็เป็นไปด้วยความลำบาก ซึ่งเราทุกคนก็ต้องร่วมมือกัน ยอมเจ็บตัวในช่วงนี้ และคิดว่าน่าจะเป็นเพียงระยะสั้น ดีกว่าปล่อยให้ไวรัสระบาดโควิด-19 ระบาดลากยาวโดยไม่รู้ว่าจะจบลงได้เมื่อไหร่”

แหล่งข่าวรายนี้กล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์ในขณะนี้ทำให้การขายรถยนต์ใหม่ในช่วงที่ผ่านมาต้องมีการปรับเปลี่ยน ด้วยการ Live สดจากทาง Facebook แทน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย Social Distance โดยเซลส์แต่ละโชว์รูมมีการใช้สื่อโซเชียลในการขาย การแจ้งโปรโมชันแคมเปญต่างๆ ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่สนใจซื้อรถยนต์ใหม่แต่ไม่อยากออกจากบ้านเพราะกลัวเรื่องไวรัสโควิด-19

ส่วนการแข่งขันในช่วงที่ผ่านมานั้น แหล่งข่าวกล่าวว่าไม่ได้มีความรุนแรงมาก และถึงแม้จะมีแคมเปญต่างๆ ออกมา แต่ผู้บริโภคยังคงชะลอการซื้อรถยนต์ใหม่ออกไป และรวมถึงความเข้มงวดของไฟแนนซ์ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 จะต้องมีงานมอเตอร์โชว์ แต่ก็มีการเลื่อนการจัดงานออกไป ซึ่งที่จริงช่วงนี้ของทุกๆ ปีการขายรถยนต์จะแข่งขันรุนแรงและยิ่งมีรถยนต์ใหม่เข้ามาเสริมทัพแล้วทำให้การแข่งขันดุเดือดมากยิ่งขึ้น

“เมื่ออีเวนต์ใหญ่อย่างมอเตอร์โชว์ต้องเลื่อนออกไป ทำให้การขายรถยนต์เป็นไปอย่างลำบาก เพราะถ้ามีงานมอเตอร์โชว์ค่ายรถยนต์ก็จะออกโปรโมชันดีๆ ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้น ห้างสรรพสินค้าหรือดิสเคานต์สโตร์ต้องปิดเป็นการชั่วคราว ทำให้การออกบูทที่เข้าถึงลูกค้าโดยตรงก็ได้รับผลกระทบไปด้วย การปรับเปลี่ยนมาใช้สื่อโซเชียลเข้าหาลูกค้าอาจไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็เป็นวิธีเข้าถึงลูกค้าในช่วงวิกฤตแบบนี้”

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายนี้คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์รวมในปี 2563 น่าจะกลับมามีปัจจัยบวกในช่วงไตรมาส 3 หรือ 4 แต่ก็ต้องรอสถานการณ์ต่างๆ ก่อนว่ามีแนวโน้มกลับมาดีขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะการปลดล็อกดาวน์ต่างๆ ของภาครัฐให้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสามารถทำได้ทันที ต้องค่อยเป็นค่อยไป รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าจะกลับมาดีได้เมื่อไหร่

“แม้ว่าประเทศไทยจะเจอวิกฤตการณ์มาแล้วหลายแบบ แต่มักเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจากปัจจัยในประเทศหรือนอกประเทศ อย่างเรื่องน้ำท่วมก็เป็นหนึ่งวิกฤตที่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบ ขณะที่วิกฤตไวรัสระบาดโควิด-19 เป็นวิกฤตการณ์ที่ได้รับผลกระทบทั่วโลก นับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติได้เหมือนเก่า หลังจากนี้น่าจะได้เห็นการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนไป จำนวนคนว่างงานอาจจะมีมากขึ้น ทุกธุรกิจอาจมีการปรับตัวให้มีการทำงานที่บ้านมากขึ้น รวมถึงบางอุตสาหกรรมอาจตัดสินใจลดจำนวนแรงงานคนลงแล้วหันมาใช้หุ่นยนต์ในการผลิตสินค้ามากขึ้น ทำให้คนตกงานมีจำนวนมากซึ่งรวมไปถึงอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นกัน...

เชื่อว่าปีนี้ค่ายรถยนต์น่าจะปรับเป้ายอดจำหน่ายลงมากันอย่างแน่นอน รวมถึงการส่งออกรถยนต์น่าจะได้รับผลกระทบด้วยเพราะไม่สามารถส่งออกไปในประเทศต่างๆได้ ส่วนค่ายรถยนต์จะย้ายฐานการลงทุนหรือ คิดว่าไม่น่าจะไม่มี เนื่องจากฐานการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยมีความสำคัญเป็นอย่างมากในภูมิภาคนี้ อาจจะมีบ้างที่ย้ายการผลิตรถยนต์บางรุ่นออกไป เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของค่ายรถยนต์ แต่การลงทุนในประเทศไทยของค่ายรถยนต์ยังมีการลงทุนต่อเนื่องอย่างแน่นอน”

44 views

Comments


bottom of page