top of page

กังวลการปิดเมืองรอบใหม่ ! มองภาพรวมยังไม่ดีพอที่จะเสี่ยงเพิ่ม


ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวขึ้นกว่า 5% ในช่วงต้นสัปดาห์ จากความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลก โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ หลังจากที่สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ในกรุงปักกิ่งของจีน มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังคงมีมาตรการต่างๆ ที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการระบาดระลอกใหม่ โดยล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน (Daily New Cases) มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สายการบินหลายแห่งของประเทศจีน เริ่มฟื้นตัวกลับคืนมาเล็กน้อยหลังจากการทรุดตัวลงอย่างรุนแรงในไตรมาสแรกของปี 2563 แต่ก็ยังขาดทุนกว่า 4.9 พันล้านดอลลาร์สำหรับไตรมาสที่ 2 นี้ ทั้งนี้การเดินทางโดยสายการบินของจีนกำลังเริ่มฟื้นตัวกลับคืนมาทีละน้อย โดยเฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศ

นอกจากนี้ การที่บทบรรณาธิการของนิตยสารด้านการลงทุนที่จัดทำโดยหน่วยงานภาครัฐของจีนออกมาเขียนเชียร์หุ้นจีนเสียเอง โดยแนะนำให้ชาวจีนลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากคาดว่าจะมีคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ดี

ทั้งนี้หากพิจารณาที่นโยบายการเงินของจีน จะเห็นว่าระดับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงหรือส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยกับอัตราเงินเฟ้อในตอนนี้ของเศรษฐกิจจีนมีอยู่ถึงร้อยละ 2-4 นับว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง หากพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของสหรัฐ, ญี่ปุ่น และยุโรปว่าเท่ากับติดลบ ส่วนไทย, เกาหลีใต้ และไต้หวันเท่ากับศูนย์และติดลบ ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยที่ตัวเลข Caixin Services PMI เดือน มิ.ย. 2563 อยู่ที่ระดับ 58.4 พุ่งขึ้นจากระดับ 55 ในเดือน พ.ค. 2563 สอดคล้องกับดัชนี PMI ภาคบริการเ ดือน มิ.ย. 2563 ที่ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2553

อย่างไรก็ดี “นายหมูบิน” ยังคงมองว่าการดีดตัวขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นโลกยังคงเปราะบางมากๆ สะท้อนออกมาจากผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนสหรัฐจาก AAII ที่ระบุว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา สัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้ายังคงเป็นขาขึ้น หรือ Bullish ที่แม้จะเพิ่มขึ้น 5.0% เมื่อเทียบจากสัปดาห์ที่ผ่านมามาอยู่ที่ 27.2% แต่ยังคงต่ำกว่าสัดส่วนนักลงทุนที่เชื่อว่าตลาดหุ้นสหรัฐในระยะ 6 เดือนข้างหน้ากำลังกลับเป็นขาลง หรือ Bearish ที่แม้ว่าจะลดลง 3.2% เมื่อเทียบจากสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังคงอยู่ที่ระดับสูงราว 42.7% หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันทั่วโลกและสหรัฐยังทำจุดสูงสุดใหม่ หรือ New High ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อการกลับมาปิดเมืองอีกครั้ง

ส่วนใหญ่มองเศรษฐกิจโลกยังไม่ดี ! สิ่งที่น่ากังวลคือการที่นอกจากสหรัฐแล้ว ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้นยังรวมถึงอินเดีย ออสเตรเลีย และเม็กซิโกด้วย ขณะที่ล่าสุด Anthony Fauci ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดของทำเนียบขาวระบุว่าสหรัฐอาจจะต้องมีการพิจารณาอย่างจริงจังว่าจะต้องมีการ "ปิดเมือง" อีกครั้งหรือไม่ หลังจากที่เมือง Melbourne ของประเทศออสเตรเลียได้เริ่มกลับมาใช้มาตรการ Lockdown อีกครั้งเป็นเวลา 6 สัปดาห์แล้ว

ข่าวร้ายที่ออกมาจากสหรัฐคือคณะทำงานของประธานาธิบดี Donald Trump ต้องการให้สภา คองเกรสจำกัดวงเงินในมาตรการเยียวยาผลกระทบ COVID-19 รอบใหม่เอาไว้ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งหมายความว่าจะไม่สูงไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ในภาวะที่สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ หรือ FOMC ต่างทยอยออกมาแสดงมุมมองในด้านลบต่อเศรษฐกิจ โดยต่างก็มีความเห็นในทางเดียวกันว่า แม้อัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 11.1% ในเดือน มิ.ย. 2563 แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก และเฟดยังคงต้องดำเนินการเพื่อทำให้อัตราว่างงานปรับตัวลดลงอีก แม้ว่าล่าสุดตัวเลข ISM Non-Manufacturing PMI ของสหรัฐเดือน มิ.ย. 2563 จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 ในเดือน มิ.ย. 2563 จากระดับ 45.4 ในเดือน พ.ค. 2563 มากกว่าที่คาดที่ระดับ 50.1 ก็ตาม

ขณะที่ในฝั่งของยุโรป คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซน โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวลง 8.3% ในปีนี้ และจะดีดตัวขึ้น 5.8% ในปีหน้า หลังจากที่เคยคาดการณ์ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 7.4% ในปีนี้ และฟื้นตัว 6.1% ในปีหน้า

ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) ตราบใดที่ SET ยังกลับไปยืนเหนือ 1,430 จุด (+/-) ไม่ได้ เน้น “ดีดขึ้นขาย” ในลักษณะ “Short Against” เพื่อรอกลับมาทยอยสะสมหุ้น CPALL, BJC, BEM, EGCO, BCH, GPSC, BTS, HMPRO, AOT และ ADVANC อีกครั้ง สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “ลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นมาอยู่ที่ระดับ 25% ของพอร์ต”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์ นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/wealthhuntersclub และ e-mail ที่ moobin.stockmania@gmail.com แล้ว แฟนๆ ยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ในรายการ “เซียนเศรษฐกิจ” ทาง FM 97 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00-16.00 น.เช่นเดิมครับ

 

ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: Wealth Hunters Club

13 views

Comments


bottom of page