top of page

กสิกรไทยเปิดเพิ่ม 2 โครงการพิเศษช่วย "บุคลากรทางการแพทย์และธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก"



กสิกรไทยเปิดเพิ่ม 2 โครงการพิเศษช่วย “บุคลากรทางการแพทย์และธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก” นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย สานต่อโครงการช่วยเหลือสังคม เปิดโครงการ “เบี้ยรบพิเศษสำหรับนักรบเสื้อกาวน์” โดยมูลนิธิกสิกรไทยมอบเงินเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ นำร่องในโรงพยาบาลรัฐ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 จำนวน 45 แห่ง มีบุคลากร 5,083 คน โดยแต่ละคนจะได้รับเงินรายเดือน ๆ ละ 4,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งตลอดทั้งโครงการคาดว่าจะช่วยเหลือบุคลากรได้กว่า 20,000 คน รวมเงินช่วยเหลือ 300 ล้านบาท และเปิดตัวโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เพื่อช่วยลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 200 คน โดยเชิญลูกค้าเข้าร่วมโครงการและสนับสนุนเงินทุนเพื่อใช้ในการจ้างพนักงานให้มีรายได้และอยู่รอด ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% ฟรีค่าธรรมเนียมทุกประเภท ไม่ต้องมีหลักประกัน ระยะเวลากู้ 10 ปี และไม่ต้องผ่อนชำระคืนเงินกู้ 1 ปี วงเงินกู้ของแต่ละบริษัทจะขึ้นอยู่กับจำนวนพนักงาน โดยพนักงานจะได้รับเงินคนละ 8,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน รวมวงเงินปล่อยกู้ 1,000 ล้านบาท มีธุรกิจเอสเอ็มอีที่เชิญร่วมโครงการกว่า 1,000 บริษัท และช่วยพนักงานได้กว่า 41,000 คน


มูลนิธิกสิกรไทย เปิดโครงการ “เบี้ยรบพิเศษสำหรับนักรบเสื้อกาวน์” มอบเงินสนับสนุนรวม 300 ล้านบาท ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มูลนิธิกสิกรไทย มอบเงินสนับสนุนมนุษย์งานที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานด้านสาธารณสุขในช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 จัดตั้งโครงการ “เบี้ยรบพิเศษสำหรับนักรบเสื้อกาวน์” นำร่องในโรงพยาบาลรัฐ จำนวน 45 แห่ง ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีอัตราการแพร่ระบาดสูง มีบุคลากรรวม 5,083 คน โดยแต่ละคนจะได้รับเงินรายเดือนๆ ละ 4,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน โดยคาดว่าตลอดทั้งโครงการสามารถมอบเงินช่วยเหลือได้รวมกว่า 20,000 คน ด้วยงบประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ทุ่มเทและเสียสละแม้ต้องทำงานในพื้นที่เสี่ยง

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย และประธานกรรมการ มูลนิธิกสิกรไทย กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านสาธารณสุข เป็นกำลังหลักสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนาด้วยหัวใจที่ทุ่มเทและเสียสละ นอกจากเสี่ยงกับการติดเชื้อแล้ว โรงพยาบาลบางแห่งยังอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอีกด้วย ในขณะที่ต้องดูแลประชาชน ทุกท่านต่างก็มีภาระที่ต้องดูแลตนเองและครอบครัวให้อยู่รอดและปลอดภัยเช่นกัน มูลนิธิกสิกรไทยจึงมอบเงินสนับสนุนเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักรบเสื้อกาวน์รวม 20,000 คน คนละ 4,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม 2563 รวมงบประมาณทั้งสิ้น 300 ล้านบาท เพื่อจะได้นำเงินไปใช้จ่ายตามความจำเป็น โดยมูลนิธิกสิกรไทยจะมีกระบวนการจ่ายเงินเพื่อให้มั่นใจว่าเงินดังกล่าวถึงมือนักรบเสื้อกาวน์ได้อย่างทั่วถึง

โครงการ “เบี้ยรบพิเศษสำหรับนักรบเสื้อกาวน์” เป็นโครงการที่ดำเนินการโดย มูลนิธิกสิกรไทยร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สตูล และคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้รวบรวมรายชื่อโรงพยาบาลที่เข้าข่ายตามเกณฑ์จำนวน 45 แห่ง ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงแล้วยังประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้แก่ จังหวัด สงขลา ยะลา นราธิวาส ปัตตานี และสตูล มีบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 5,083 คน ทั้งหมดเป็นบุคลากรที่ปฏิบัติงานตั้งแต่มีการแพร่ระบาด และมีหน้าที่ในงานที่ได้สัมผัสเชื้อและดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขจนถึงวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา กสิกรไทย เตรียมวงเงิน 1 พันล้านบาท เปิดโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เพื่อให้เป็นทุนสำหรับว่าจ้างพนักงานกว่า 41,000 คน กสิกรไทย ลุยช่วยเหลือเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง หลังเปิดตัวโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ล่าสุดจัดตั้งโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” ช่วยธุรกิจขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 200 คน ให้มีเงินทุนในการจ้างพนักงานให้มีรายได้และอยู่รอด ด้วยการสนับสนุนเงินกู้ ดอกเบี้ย 0% ไม่ต้องผ่อน 1 ปี เตรียมวงเงิน 1,000 ล้านบาท คาดมีเอสเอ็มอีเข้าร่วมกว่า 1,000 บริษัท และช่วยพนักงานได้กว่า 41,000 คน

นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบค่อนข้างมากจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เพราะไม่ได้มีเงินทุนสำรองมากพอ เมื่อขาดสภาพคล่องก็จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก ธนาคารจึงได้จัดตั้งโครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เป็นเงินกู้สำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็กเพื่อให้สามารถจ้างพนักงานต่อไปได้ มีอัตราดอกเบี้ย 0% สิ่งสำคัญของโครงการนี้ คือ การเข้าไปช่วยเหลือพนักงานให้ยังมีงานทำและมีเงินเดือนเพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว โดยพนักงานแต่ละคนจะได้เงินคนละ 8,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ธนาคารได้เตรียมวงเงินสินเชื่อสำหรับโครงการนี้ไว้ 1,000 ล้านบาท และทำให้เกิดการจ้างงานพนักงานกว่า 41,000 คนต่อไป ธนาคารยอมสูญเสียรายได้เพื่อให้คนในสังคมส่วนหนึ่งอยู่รอด เพราะการที่ทุกคนจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ จะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง คนที่มีต้องช่วยคนที่ไม่มี ถ้าทุกคนช่วยกันประเทศไทยก็จะสามารถฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน

โครงการ “สินเชื่อ 0% เพื่อรักษาคนงานเอสเอ็มอี” เป็นการเชิญลูกค้าเอสเอ็มอีรายเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 200 คน และมีการใช้บริการกับธนาคารมานานหลายปีเข้าร่วมโครงการเท่านั้น ซึ่งเจ้าของธุรกิจต้องเป็นคนดี เป็นนักสู้ที่พยายามต่อสู้เพื่อนำพาธุรกิจและพนักงานรอดไปด้วยกัน การช่วยเหลือภายใต้โครงการนี้ ธนาคารจะช่วยจ่ายค่าจ้างพนักงานทุกคนให้บางส่วน ธุรกิจต้องดำเนินต่อไปได้ และสามารถดูแลค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในส่วนอื่น ๆ ได้เอง โดยไม่หยุดหรือปิดกิจการ ธนาคารสนับสนุนเงินกู้เพื่อจ้างพนักงาน อัตราดอกเบี้ย 0% ฟรีค่าธรรมเนียมทุกประเภท ไม่ต้องมีหลักประกัน ระยะเวลากู้ 10 ปี และไม่ต้องผ่อนชำระคืนเงินกู้ 1 ปี เพื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอีรายเล็กมีเงินทุนในการจ้างพนักงานให้พวกเขามีรายได้และอยู่รอด โดยวงเงินกู้ของแต่ละบริษัทนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนพนักงาน พนักงานแต่ละคนจะได้เงินคนละ 8,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ทั้งนี้ธนาคารจะมีกระบวนการตรวจสอบได้ว่าเงินได้เข้าบัญชีพนักงานทุกคนจริง ซึ่งธนาคารได้เตรียมวงเงินสินเชื่อสำหรับโครงการนี้ไว้ 1,000 ล้านบาท จะสามารถช่วยธุรกิจทั่วประเทศจำนวนกว่า 1,000 บริษัท ให้มีเงินทุนในการจ้างพนักงานกว่า 41,000 คน

ทั้งนี้ เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้เปิดตัวโครงการ “เถ้าแก่ใจดี เจ้าหนี้มีใจ” ซึ่งยังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยร่วมมือกับเจ้าของกิจการในการช่วยเหลือพนักงานที่มีเงินเดือนน้อยให้อยู่รอดได้ โดยมีจังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี มีความคืบหน้าในการรักษาการจ้างพนักงานได้กว่า 2,000 คน จากที่ตั้งเป้าไว้ 3,000 คน คิดเป็นเกือบ 70% ของเป้า และธนาคารยังช่วยลดดอกเบี้ยบนเงินกู้เดิมที่ผู้ประกอบการมีกับธนาคาร คิดเป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท

KBank initiates two additional special projects to help medical personnel and SME proprietors

Mr. Banthoon Lamsam, Chairman Emeritus of KASIKORNBANK, announced the launch of two additional projects to benefit society. Through initiation of the “Special Stipend for Front-line Medical Personnel” program, the Kasikornthai Foundation has offered funds to boost morale and provide support for healthcare personnel and officers. This pilot project will be implemented in 45 hospitals across the five southernmost provinces where there is a high rate of COVID-19 transmission. A total of 5,083 medical personnel will each receive 4,000 Baht a month for a 3-month period. This project is expected to help 20,000 personnel through a fund totaling 300 million Baht. Concurrently, the “Zero Interest-rate Loan to Retain SME Staff” program is also being launched to aid small SMEs with fewer than 200 employees. SME customers are invited to join the program and make contributions to the fund for maintaining employees’ income and businesses’ upkeep – with a zero interest-rate loan, which has no fees and requires no collateral, for a 10-year loan term and 1-year grace period of principal repayment. The loan limit for each SME is tied to its number of employees. Each employee will receive 8,000 Baht a month for a period of three months, with a loan limit of 1 billion Baht. More than 1,000 SME operators are now participating in this program, and it is expected to save 41,000 jobs.


Kasikornthai Foundation launches the “Special Stipend for Front-line Medical Personnel” program to offer 300 million Baht to healthcare professionals and workers in five southernmost provinces The Kasikornthai Foundation has offered funds to support frontline health workers during the COVID-19 outbreak through the establishment of the “Special Stipend for Front-line Medical Personnel” program. The Kasikornthai Foundation has offered funds to boost morale and provide support for healthcare personnel and officers. This pilot project will be implemented in 45 hospitals across the five southernmost provinces where there is a high rate of COVID-19 transmission. A total of 5,083 medical personnel will each receive 4,000 Baht a month for a 3-month period. This project is expected to help 20,000 personnel through a fund totaling 300 million Baht, which is aimed to boost the morale of healthcare personnel and officers for their dedication and tireless work in the fight against COVID-19 in the high-risk areas. Mr. Banthoon Lamsam, Chairman Emeritus of KASIKORNBANK (KBank) and Chairman of the Kasikornthai Foundation, said that healthcare personnel and workers are the main pillar of response in the fight against COVID-19. They work with their heart and dedication to care for the general public regardless of their race and religion. Aside from being exposed to the virus, many of them have to work in hospitals located in high-risk areas. They are dedicated to delivering essential healthcare services for the sake of their patients’ lives, while also having to take care of themselves and their families. As a tribute to these dedicated health frontliners, the Kasikornthai Foundation has granted support funds of 300 million Baht to 20,000 medical professionals; each of them will receive 4,000 Baht for three months from May to July 2020. The funds can be used as they deem necessary. Given the efficient fund distribution system of the Kasikornthai Foundation, hospital staff members and medical workers can be assured of receiving the assistance. The “Special Stipend for Front-line Medical Personnel” program is administered by the Kasikornthai Foundation in collaboration with Provincial Public Health Offices in Songkhla, Yala, Narathiwat, Pattani and Satun, and the Faculty of Medicine, Prince of Songkhla University. These Provincial Public Health Offices have compiled a list of 45 hospitals in the five southernmost provinces, which are already high-risk areas and are now facing widespread viral transmission. As of April 30, there were 5,083 medical professionals and workers stationed at these hospitals who are classified as a high risk group with exposure to the viral infection, under the Ministry of Public Health’s announcement.

KBank sets aside 1 billion Baht for small SMEs to keep more than 41,000 workers under the “Zero Interest-rate Loan to Retain SME Staff” program After the launch of the “Generous (Business) Owners - Empathetic Creditor” initiative in mid-April, KASIKORNBANK (KBank) continues to provide assistance to SME businesses. Recently, the “Zero Interest-rate Loan to Retain SME Staff” program was introduced to help small businesses with up to 200 employees so that they have funds to keep their workers and maintain business operations. Under this project, KBank has prepared 1 billion Baht in funds for zero-percent loans with a one-year grace period. It is expected that approximately 1,000 SME entrepreneurs and more than 41,000 workers will benefit from the project.

Mr. Banthoon Lamsam, Chairman Emeritus of KBank, said that due to their limited reserves, small-scale businesses have been more severely impacted by the prevailing pandemic. Their liquidity shortage has made it quite difficult for them to access funding sources. KBank has therefore established the “Zero Interest-rate Loan to Retain SME Staff” program to enable these small businesses to retain their employees. The outstanding feature of this project is to help employees earn a living for themselves and their families. Each employee will earn 8,000 Baht a month for three months, for which KBank has set aside 1 billion Baht that will be available to more than 41,000 employees. KBank is willing to lower its income in order to help the members of our society endure the crisis. If those who have give a hand to those who have not, everyone will pull through and no one will be left behind; then Thailand will certainly weather this hardship.

Only small SMEs employing fewer than 200 staff members and using KBank’s services for a number of years are eligible to join the “Zero Interest-rate Loan to Retain SME Staff” program. Such entrepreneurs must have professional integrity and a fighting spirit, and a proven ability to lead their businesses and employees to survive together. Regarding the assistance under this program, KBank will help small SME entrepreneurs partially pay expenses for all of their employees so that they can continue their operations and take care of other expenditures without having to suspend or shut down their businesses. The financial support for small SMEs to retain their employees is free of interest and all types of fees. It has a 10-year term with no collateral requirement. KBank also offers participating SMEs a one-year grace period to ensure that they have sufficient funds for wages. The amount of loan for each company depends on its number of employees. Each of its employees, however, must have income of at least 8,000 Baht per month for three months. KBank will put an examination process in place to ensure that the salary is credited to the account of each employee. A total of 1 billion Baht has been set aside for the financial support program, which should be able to assist over 1,000 companies nationwide to retain more than 41,000 employees. In mid-April 2020, KBank introduced the “Generous (Business) Owners - Empathetic Creditor” initiative in collaboration with entrepreneurs to help low-income workers remain employed in Phuket. The project has been well-received as it has so far helped entrepreneurs retain more than 2,000 employees, or nearly 70 percent of the 3,000 employees targeted earlier. KBank has helped entrepreneurs reduce interest payments amounting to more than 60 million Baht on their existing loans with KBank, as well.

74 views

Comments


bottom of page