
ภาษีของทรัมป์กดดันระยะสั้นๆ !
ทิศทางของตลาดหุ้นโลกมีแนวโน้มชะลอตัวในระยะสั้นๆ ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐ หลังผลสำรวจของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) พบว่า นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักความไม่เชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า สู่ระดับ 42.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 66 จากระดับ 34.0% ในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนลดน้ำหนักความเชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า สู่ระดับ 33.3% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่กลางเดือน ม.ค. 68 จากระดับ 41.0% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาวางแผนที่จะประกาศใช้ ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ซึ่งจะเป็นการยกระดับการทำสงครามการค้ากับพันธมิตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และกล่าวว่าการดำเนินการดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อทุกคน ซึ่งภาษีตอบโต้อาจจะมาแทนแผนภาษีนำเข้าพื้นฐานในอัตรา 10-20% ตามที่เขาใช้ในการหาเสียง
ในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจพบว่าผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 67.8 ในเดือน ก.พ. 68 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 71.3 จากระดับ 71.1 ในเดือน ม.ค. 68 ขณะที่ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 4.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.3% และเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ม.ค. 68 ที่ระดับ 3.3% นอกจากนี้ ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 3.3% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.2% และเพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือน ม.ค. 68 ที่ระดับ 3.2% ในส่วนของตลาดแรงงาน กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 143,000 ตำแหน่งในเดือน ม.ค. 68 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 169,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 307,000 ตำแหน่งในเดือน ธ.ค. 67 ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือน ม.ค. 68 เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.8% เมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.5% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3%
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงนับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐ ซึ่งแสดงสัดส่วนของกำลังแรงงานต่อจำนวนประชากรทั้งหมดอยู่ที่ระดับ 62.6% อย่างไรก็ดียังคงมีปัจจัยบวกเข้ามา จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่าแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 1 ปี 2568 ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐปี 2567 ขยายตัวใน 1.4% ในไตรมาส 1, 3.0% ในไตรมาส 2, 3.1% ในไตรมาส 3 และ 2.3% ในไตรมาส 4 ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจากการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครนแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ระบุว่าเขามีความสัมพันธ์อันดีกับปูตินมาโดยตลอด และมีแผนการที่เป็นรูปธรรมในการยุติสงครามครั้งนี้ ขณะที่ล่าสุดประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ยอมรับว่ายูเครนอาจไม่สามารถต้านทานกองทัพรัสเซียได้ หากสหรัฐอเมริกาหยุดให้ความช่วยเหลือหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐสั่งระงับโครงการสนับสนุนเงินทุนให้ต่างชาติเกือบทั้งหมด ทั้งนี้สหรัฐเป็นผู้สนับสนุนหลักของยูเครนนับตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครนทวีความรุนแรงขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. 65
ตลาดหุ้นเอเชียและไทยเริ่มมีปัจจัยบวกต่อเนื่อง ! ในส่วนของตลาดหุ้นเอเชียมีปัจจัยบวกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของจีนที่ล่าสุดดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือน ม.ค. 68 เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน แม้ว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยังคงเผชิญภาวะเงินฝืด โดยการใช้จ่ายช่วงเทศกาลมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังรัฐบาลทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือน ม.ค. 68 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เร่งตัวขึ้นจากเดือน ธ.ค. 68 ที่เพิ่มขึ้น 0.1% และสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4% และเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 0.7% จากระดับ 0% ในเดือน ธ.ค. 67 แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%
นอกจากนี้ธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังคงเดินหน้าเพิ่มปริมาณทองคำสำรองเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือน ม.ค. 68 แม้ราคาทองคำจะพุ่งขึ้นทุบสถิติใหม่นับตั้งแต่ต้นปีก็ตาม โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าปริมาณทองคำแท่งที่ PBOC ถือครองอยู่เพิ่มขึ้น 0.16 ล้านทรอยออนซ์เมื่อเดือนที่แล้ว โดย PBOC เริ่มกลับมาเพิ่มทองคำเข้าทุนสำรองอีกครั้งในเดือน พ.ย. 67 หลังจากหยุดพักไปเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากที่เข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง 18 เดือนติดต่อกัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า PBOC มีความมุ่งมั่นที่จะกระจายความเสี่ยงของทุนสำรอง แม้ราคาทองจะอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งการเข้าซื้อของ PBOC สะท้อนให้เห็นว่าจีนมีมุมมองเชิงบวกต่อทองคำ ในฝั่งของญี่ปุ่น ล่าสุดเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะรายงานการขยายตัวในไตรมาส 4/2567 ซึ่งจะเป็นการขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส เนื่องจากความแข็งแกร่งของการลงทุนในภาคธุรกิจจะช่วยบดบังความอ่อนแอของการอุปโภคบริโภค
โพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่แท้จริงของญี่ปุ่นจะขยายตัว 1% ในไตรมาส 4 ปี 2567 เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงเล็กน้อยจากไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 1.2% และเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส คาดว่า GDP จะขยายตัว 0.3% ขณะที่ในส่วนของไทย ฝ่ายวิจัย ประจำภูมิภาคเอเชีย ธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ประเมินเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 2568 เติบโต 3.3% โดยที่ยังมอง GDP ไทยเติบโตได้ในระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าสถาบันอื่นๆ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับอานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยวที่ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งในช่วงเดือน ม.ค. 68 ที่ผ่านมายังคงเห็นจำนวนนักท่องเที่ยวที่สูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ยังมีจำนวนที่สูง ขณะเดียวกันยังคงมีปัจจัยหนุนจากการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่จะสามารถช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศได้ แต่อาจจะมีปัจจัยกดดันภาคการบริโภคในประเทศอยู่บ้างจากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้การบริโภคอาจจะยังมีการเติบโตได้ไม่มากเท่าที่ควร
ส่วนประเด็นสงครามการค้าที่สหรัฐเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศที่เกินดุลการค้าสหรัฐมาก แต่มองว่าประเทศไทยอาจจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก และอาจจะได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตจากจีนเข้ามา ซึ่งสามารถช่วยดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศไทยได้ นอกจากนี้ยังคงมีการลงทุนจากภาครัฐที่ยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย ซึ่งยังคงเห็นการผลักดันโครงการลงทุนต่างๆ ออกมาจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ที่ธนาคารเอชเอสบีซียังมองว่าเติบโตได้ในระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าสถาบันอื่นๆ ขณะที่ความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ล่าสุดกระทรวงการคลังยืนยันชัดเจนว่าจะเดินหน้าแน่นอนภายในไตรมาส 2/2568 ซึ่งจะนำเสนอรายละเอียดของโครงการให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มี แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาได้ในช่วงปลายเดือน ก.พ. 68 นี้ หลังจากที่ประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับรายละเอียดการดำเนินโครงการในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว
ในส่วนของกลยุทธ์ สำหรับการลงทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 1 สัปดาห์) เน้น “อ่อนตัวซื้อลงทุน” สำหรับการลงทุนระยะกลาง (1-3 เดือน) ในลักษณะ Long-Only แนะนำ “เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไปที่ระดับ 75% ของพอร์ต”
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจลงทุนด้วยครับ สำหรับการพูดคุยกันระหว่างสัปดาห์นอกจากทาง Facebook ที่ www.facebook.com/hippowealththailand และ e-mail ที่ hippowealththailand@gmail.com แล้ว แฟนๆ ยังสามารถติดตามมุมมองเกี่ยวกับการลงทุนจาก “นายหมูบิน” ได้ในรายการ “เซียนเศรษฐกิจ” ทาง FM 97.00 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.00-16.00 น. เช่นเดิมครับ
ภาพประกอบ : การวิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทยในทางเทคนิครายวัน (Daily)

Source: TQ
Comments