Interview : คุณสรายุทธ มัลลัม
ประธานที่ปรึกษาสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และอุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ต เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ก.ค.แน่นอน แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว-ชาวภูเก็ตหวั่นจะได้แต่เงื้อง่าราคาแพง ความไม่พร้อมและปัญหายังมีอีกเพียบ สำคัญสุดคือวัคซีนไม่มาตามนัด มาตรการ ขั้นตอน การคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติยังสับสน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเต็มที่ เช่นการออกพาสปอร์ตวีซ่าจากกงสุลหรือสถานทูตไทยจากประเทศต้นทาง การตรวจ swab นักท่องเที่ยวต้องทำที่ไหน ใครบ้างต้อง swab ใครเป็นคนออกค่าใช้จ่าย ยืนยัน...ตอนนี้ภูเก็ตพร้อมทุกภาคส่วนทั้งโรงแรม บริษัททัวร์ สายการบิน ฯลฯ แต่ส่วนกลางยังไม่ฟันธงอนุมัติแผนการ ระเบียบ ขั้นตอนต่างๆ ที่ภูเก็ตเสนอไป หวั่น...ส่วนกลางอนุมัติช้าหรือสั่งปรับแผนจะทำให้รวนทั้งกระดาน ตั้งหลักรับมือกันไม่ทัน พร้อมย้ำ ภูเก็ตโมเดลไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ของชาวภูเก็ต แต่เป็นผลประโยชน์ของทั้งประเทศ ภูเก็ตโมเดลเจ๊ง เท่ากับท่องเที่ยวไทยเจ๊งทั้งยวง
กำลังจะเปิดภูเก็ต โมเดล 1 กรกฎาคมนี้ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ดีใจ แต่ยังดีใจไม่ 100% พูดง่ายๆ ต่อยคู่ต่อสู้ลงไปนับ แต่คู่ต่อสู้อาจจะลุกขึ้นมาได้
สิ่งที่ยังกังวล
อย่างแรกอาจจะไม่มีปัญหามาก แต่ยังคาดเดาไม่ได้ชัดเจนคือเรื่องวัคซีน เรื่องนี้ตามที่คุยกันไว้ ก็หมายถึงว่าวัคซีนควรจะมาภูเก็ตก่อนวันที่ 10 มิถุนายน ทั้งหมดที่คุยกันไว้แสนกว่าโดส แต่มาจริงๆ วันนี้แค่ 2.4 หมื่นโดส เลยกลายเป็นว่าคนที่นัดฉีดวันที่ 7-9 มิถุนายน คือได้ฉีด แต่วันที่ 10 ขึ้นไป ไม่ได้ฉีด เขาก็เลื่อนไปปลายเดือนอีก ก็ยัง 50 : 50 อยู่ ยังมีความเสี่ยงอยู่เล็กน้อย แต่ที่สำคัญคือวันที่ 29-30 มิถุนายน จะได้จริงหรือเปล่า คือคงได้ แต่จะได้ครบหรือไม่ ยังไม่แน่ใจ แต่ตามที่ส่วนกลางบอกมาคือได้ครบ อย่างครั้งนี้บอกจะได้มา 4-5 หมื่นโดส แต่ได้มาแค่ 2 หมื่นโดส เพราะฉะนั้นมันยังแกว่งๆ อยู่นิดๆ ว่า จะได้หรือไม่ได้ ยังไม่รู้เหมือนกัน
เราก็บอกว่าถ้าไม่ได้ เราก็เปิดไม่ได้ อย่างไรเราก็ต้องกันคนภูเก็ตไว้เป็นเบื้องต้นก่อน คือถ้าคนภูเก็ตฉีดวัคซีนยังไม่ครบ 70% ตามที่เราพูดไว้ตั้งแต่ทีแรก โดยเฉพาะบุคลากรทางด้านการท่องเที่ยวต้องได้ 95 -100% ซึ่งถ้าไม่ได้ตามนั้น เราก็จะไม่เปิดจริงๆ เพราะมันเป็นความเสี่ยงของจังหวัดและของประเทศ เพราะเราจะไม่ทำอะไรที่มันเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อยก็ยังพอทำได้ แต่ถ้าเสี่ยงมากเกินไปโดยที่ไม่มีมาตรฐานของสาธารณสุข เราคงไม่เสี่ยง
ส่วนเรื่องที่สอง คือเรื่องมาตรการภายในที่ทางจังหวัดเสนอไปยังส่วนกลางแล้วว่า การรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่แรก จะมีมาตรการใดบ้าง คือก่อนขอวีซ่า คุณจะต้องมีพาสปอร์ตวีซ่าหรือไม่ กระทรวงต่างประเทศก็บอกไม่ใช่หน้าที่เขา เขาก็จะไม่ออกให้ เพราะตัวเองมันต้องกักตัว ตอนนี้เขาก็ยังพูดว่า ถ้ากระทรวงต่างประเทศ กรมการกงสุลไม่ออกให้จากต่างประเทศ เขาจะเดินทางมาอย่างไร คือมันจะต้องมีตรวจเบื้องต้นแล้วว่าเขาจะต้องมีการ swab มา 2 ชั่วโมง แม้แต่เขาจะฉีดมาแล้ว 2 เข็มก็ตาม ก็ต้อง swab พูดง่ายๆ ว่าต้อง approve ว่าฉีดมา 2 เข็มจริง
ที่ผ่านมาตั้งแต่โควิด-19 รอบแรกจนถึงวันนี้ หลังจากเปิดสนามบินนานาชาติ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ระเบียบที่กระทรวงต่างประเทศออกมา กระทรวงต่างประเทศมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้วว่ามีการ swab มา มีการตรวจเชื้อมาจากสถานพยาบาลที่ได้รับการเชื่อถือทั้งหลาย ถึงแม้ว่าจะมาถึงประเทศไทย แล้วมีการกักตัวที่กรุงเทพฯ ก็ตาม เขาเชี่ยวชาญอยู่แล้วว่าอะไรที่น่าเชื่อถืออะไรที่ไม่น่าเชื่อถือ เขาสามารถออกประกาศในประเทศเหล่านั้นได้ว่า คุณจะต้องไปหาสถานพยาบาลที่กงสุลเรารับรองเท่านั้น คิดว่าก็ไม่มีอะไรยาก แต่ก็ยังไม่สรุปได้ชัดว่าเขาจะทำให้หรือไม่ทำให้
ประเด็นต่อมา เมื่อมาถึงสนามบินภูเก็ตแล้ว ขั้นตอนการคัดกรองต้องเคร่งครัด คนขับรถทุกคน ผู้ให้บริการทุกคน ทั้งที่สนามบิน ทั้งที่ตม. ศุลกากร และกรมควบคุมโรค ทุกคนต้องฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 100% คือมาฉีดครบอยู่แล้ว เพียงแต่เรายังไม่จดทะเบียนให้ชัด ฉะนั้นรถที่จะมารับที่สนามบินได้ คนขับ ต้องฉีด 2 เข็ม ฉะนั้นมาตรการการตรวจ การขึ้นทะเบียนพวกนี้ เราเสนอไปแล้ว แต่ทางกรุงเทพฯ ยังไม่ตอบรับว่าจะโอเคตามเราหรือไม่ คือเราจะปรับเปลี่ยนได้ ถ้าเขาบอกคำตอบกับเรามาว่าไม่เห็นด้วย เพิ่มตรงนี้หน่อยได้หรือไม่ แต่เรากลัวอย่างนี้ กลัวหมายถึงว่าปลายเดือนมิถุนายนมาบอกเราว่าต้องเปลี่ยน คือจะตั้งตัวไม่ทัน ปัญหาก็อยู่ที่การบริหารจัดการ
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนได้อนุมัติเบื้องต้นว่าเปิดแน่ภูเก็ต 1 กรกฎาคมนี้ แต่มันมีรายละเอียดระดับเล็กๆ ของระเบียบการทั้งหลาย โรงแรมเป็นอย่างไร swab วันที่ 5 อย่างไร วันที่ 12 อย่างไร แล้วก็ปล่อยนักท่องเที่ยวไปอย่างไร เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบไม่ต้อง swab ไม่ต้องทำอะไร เด็กอายุมากกว่า 5 ขวบ swab อย่างไร ใครออกค่าใช้จ่าย ทำที่ไหน ที่โรงแรม หรือไป swab ที่โรงพยาบาล คือมันมีเงื่อนไขอีกเยอะแยะที่เราเสนอไป เพราะเราไปคุยกับทุกภาคส่วนแล้ว ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คือเสนอไปหมดแล้ว ปัญหาก็คือต้องได้รับอนุมัติจากกรุงเทพฯ. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนเพราะมีหน่วยงานราชการหลายหน่วยที่จะต้องมาร่วมกันหาข้อสรุป ก่อนที่จะไปเสนอศบค.อีก คือยังไม่ได้ข้อสรุปมา เลยกลายเป็นว่าเราต้องรอต่อไป
ตอนนี้คือเราจะไม่ว่าใครเลย เราจะขอร้องยกมือไหว้กราบงามๆ อย่างเดียวว่าภูเก็ตควรจะเปิดได้แล้ว เราพร้อมที่จะเปิดแล้ว ถ้าทางส่วนกลางโอเคตามเรา อย่างที่ ศบค.อนุมัติมาว่า ภูเก็ตได้นะ แต่ต้องดูแลตัวเองเรื่องการควบคุมโรค อย่าให้มีการแพร่ระบาด ตรงนี้เราคิดว่าบุคลากรทางการแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญ รู้ว่าจุดบอดมันคืออะไร ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ขั้นตอนที่เราจะป้องกันเรื่องอย่างนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากกรุงเทพฯ ถ้ากรุงเทพฯ สั่งมาว่า ภูเก็ตอยากทำอะไรก็ทำเลย ตามที่ภูเก็ตเห็นสมควร คือรับผิดชอบไปเลย เขาไม่ต้องพิจารณาแล้ว คือไม่ต้องส่งมา เราไม่พิจารณา เอาตามที่คุณเห็นชอบ ทำอะไรได้ทำไปเลย มันก็โอเค คือตอนนี้อยู่ที่ศูนย์กลางกรุงเทพฯ ว่า เขาจะเอาอย่างไร แล้วใครจะเป็นคนเคาะตัวนี้ว่า ตามใจภูเก็ต หรือตามที่ภูเก็ตเสนอไป คือขอให้ชัดเจนเร็วๆ หน่อย จะได้เตรียมตัวกันถูก
ทุกคนตอนนี้ใจจดใจจ่อ โทร.หาผมวันนึง 10 กว่าสาย ว่าเปิดได้ไหม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า เราก็พูดอย่างเดียวว่าพร้อมเปิด คือที่บอกจะเป็นเรื่องที่เราจะไม่พูดให้ประชาชนส่วนใหญ่ตระหนก แล้วไปบ่นรัฐบาล ส่วนตัวไม่อยากให้ใครด่ารัฐบาล คือไม่อยากให้เสียงบางส่วนที่ไม่สมควรพูดไปพูดเรื่องลบทั้งหลาย เพราะรัฐบาลมีภาพลบมาเยอะมากเกินไปแล้ว เราไม่เคยไปดูความดีรัฐบาล เราไปดูแต่ความไม่ดีของรัฐบาล คือจะมีทั้งความดีและไม่ดี ทุกรัฐบาลจะมีความดีและไม่ดี ฉะนั้น เขาทำเพื่อเรา เราก็ต้องรับทุกรูปแบบจากเขา
แต่เพียงวิงวอนขอร้องเขาว่า ขอให้ภูเก็ตได้เปิด ตามที่ภูเก็ตอยากเป็น ตามที่เราคุยกันเมื่อต้นเดือนมีนาคมว่าเราจะเปิดอย่างไร ภูเก็ตแซนด์บอกซ์มันคืออะไร อย่าให้ล้มกลางคัน เพราะถ้าล้มกลางคันแล้วมันไม่ใช่ปัญหาของภูเก็ตจังหวัดเดียว แต่จะเป็นปัญหาของประเทศด้วยว่า ความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ บริษัทนำเที่ยว หรือแอร์ไลน์ต่างๆ นานาชาติ เขาก็จะลด คือคอนเฟิร์มกันขนาดนี้ สายการบินมาขนาดนี้ เครื่องบินเขาก็ทำกันใหม่ ล้างทำความสะอาด ดูแลเครื่อง จ้างแอร์โฮสเตส จ้างกัปตันกลับมาใหม่กี่คน พร้อมจะบินแล้ว แต่ถึงเวลาเปิดไม่ได้ เขาก็เสียหาย เขาก็ขอสำนักงานการบินพลเรือนเข้ามา ขออะไรเข้ามาแล้ว ก็เสียหายทั้งประเทศเลย เลยบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้วที่จะตัดสินใจว่าอย่างไร เพราะเราคิดอย่างเดียวว่า พูดว่าเปิด เราก็ต้องเปิดให้ได้
หลายจังหวัดเมืองท่องเที่ยวของไทย อยากเห็นภูเก็ตโมเดลประสบความสำเร็จ จะได้เอาไปเป็นตัวอย่าง
ใช่ เราก็คิดอย่างนี้ เพราะที่คุยกับรัฐบาลไว้ ท่านรองสุพัฒนพงษ์ ท่านอุตส่าห์ลงมาภูเก็ต ท่านก็รับทราบตรงนี้ และพูดอย่างเดียวว่าให้ภูเก็ตเป็นตัวลองได้ไหม เราก็ยอมเป็นหนูทดลองวัคซีน เราก็เป็นหนูทดลองยา ถ้าไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ทุกจังหวัดที่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวก็เดินตามได้ แต่ถ้ามันมีอะไรเป็นข้อขัดข้องของแต่ละจังหวัด ก็เอาข้อด้อยตัวนี้ไปปรับเปลี่ยนในแต่ละจังหวัด เชียงใหม่กับภูเก็ตก็คนละเวอร์ชันกันอยู่ดี ของเราทะเลของเขาภูเขา มันไม่เหมือนกัน แต่ว่าระบบต่างๆ ของเราก็ใกล้เคียงกัน เพราะฉะนั้นมันปรับเปลี่ยนกันได้อยู่แล้ว ถ้าเราเปิดจังหวัดท่องเที่ยวได้ทั่วประเทศ เงินจำนวนมหาศาลจะเข้ามาในประเทศ
ปัญหาใหญ่คือการสื่อสารประชาสัมพันธ์ บุคลากรท่องเที่ยว คนที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว คนที่ขายซัพพลายหน่วยงานท่องเที่ยวทั้งหลาย เขาตื่นตัว และเขาเตรียมตัวจะต้อนรับอย่างดี แต่ก็มีบุคลากรอีกประเภทหนึ่ง ที่บอกว่าจะมีตาย ๆ ๆ ทั้งประเทศ จะรีบเปิดไปไหน อีก 1-2 ปีค่อยเปิดก็ได้ คือคนพูดจะพูดอะไรก็ได้ แต่ถ้าไม่เปิด ก็ตายทั้งประเทศเหมือนกัน เพราะโรงแรมก็จะเจ๊งทั้งประเทศเหมือนกัน คือมันต้องบาลานซ์ทั้ง 2 อย่าง คือทั้งเศรษฐกิจและสาธารณสุข
ก็อยากให้สื่อถึงคนที่ไม่เข้าใจว่า ทำไมภูเก็ตถึงเสี่ยงเปิด ภูเก็ตอยากจะได้เงินมากหรือไง งกเหรอ ก็ต้องมาดูภูเก็ตช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ถึงจะเข้าใจว่าภูเก็ตไม่เคยเงียบขนาดนี้มา 30 ปีแล้ว ไม่เคยเป็นแบบนี้มาเลย แล้วอยู่ดีๆ มาเป็นแบบนี้ได้อย่างไร ธุรกิจแต่ละธุรกิจ คนไม่มีจะกิน รายได้ต่อหัวเหลือ 1,500 บาทต่อหัวต่อคนต่อปี คิดดู คือต้องไปซื้อข้าวทีละกิโลกรัมมากิน คือเป็นจังหวัดยากจนไปเลย แล้วถามว่า ถ้าเราจะรอไปอีก 6 เดือน ปีนึง แล้วห่วงแต่ว่าจะติดโควิด-19 โดยไม่นึกถึงเงินในกระเป๋า ข้าวจะต้องกิน แล้วเราจะอยู่กันอย่างไร ใช่ไหม ดังนั้น เราก็คุยกัน คนภูเก็ตส่วนใหญ่ก็โอเค เพราะ 94% ของธุรกิจเรามันเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะสนับสนุนเต็มที่ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจ ตอนนี้ทางผู้ว่าฯก็พยายามให้ท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงไปทำความเข้าใจ ซึ่งผลก็คือว่าคนจองฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นมากมาย แสดงว่าผู้คนตื่นตัว ทุกคนโอเค และไม่เคยมีปัญหาว่าจะฉีดยี่ห้อใด น้อยมากที่จะมีเรื่องแบบนี้ ทุกคนก็ฉีดไปก่อน อย่างไรก็ต้องฉีด ป้องกันไว้ก่อน ซึ่งส่วนตัวว่ามันก็เป็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนว่าคนภูเก็ตตื่นตัวในเรื่องนี้
ดังนั้น วัคซีนต้องมาครบ ระเบียบขั้นตอนต่างๆ ทำได้ หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยซัพพอร์ตเต็มที่ คือภูเก็ตเปิดแน่นอน
Comments