สัญญาณอสังหาริมทรัพย์ฟื้น แต่ราคาที่ดินยังพุ่งสูง ทำให้ผู้ประกอบการชะลอซื้อ ชี้ปีนี้คอนโดมิเนียมเปิดใหม่น้อยลง ส่วนโครงการแนวราบเริ่มคึกคัก หลัง New Normal
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอนโดมิเนียมเปิดใหม่น้อยคือ ราคาที่ดินที่ยังพุ่งแรง สวนทางความต้องการผู้ซื้อยุคโควิด ที่ต้องการหาความคุ้มค่าด้านราคาเป็นหลัก มากกว่าการทำเลและมูลค่าเหมือนในอดีต ท่ามกลางความคล่องตัวน้อยลงของบางบริษัท ที่มีภาระหนี้สูง การซื้อที่ดินเก็บไว้ หากอยู่ในระดับราคาที่เหมาะสม เพื่อรองรับการเปิดตัวโครงการใหม่ หลังตลาดฟื้นตัว เพื่อชิงโอกาสทำราคาดีเหนือคู่แข่ง ขณะนี้สถานการณ์ตลาดอสังหาฯ โดยรวมกลับมามีสัญญาณเป็นบวกมากขึ้น จากจำนวนลูกค้าเข้าเยี่ยมชมโครงการต่างๆ กลับมาถล่มทลายอยู่ในสัดส่วนใกล้เคียงช่วงปกติตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ยอดขายแนวราบคึกคักเติบโตสูง จากการเปลี่ยนใจฉับพลันรับวิถีใหม่ (New Normal) ประกอบกับปัจจัยเรื่องอัตราดอกเบี้ย และความต้องการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในช่วงเดือนพฤษภาคมที่มีการผ่อนคลายมากขึ้น สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ประกอบอาชีพได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด ส่วนโครงการเปิดใหม่ และอยู่ในสถานะก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ หากไม่ตอบโจทย์กับความต้องการผู้ซื้อ ยังน่าเป็นห่วงอยู่มาก เช่นเดียวกับความกังวลของผู้ประกอบการ พับแผนเลื่อนเปิดโครงการใหม่ คงซึมยาวไปอย่างน้อย 2 ปี ส่งผลให้ภาพรวมจำนวนซัพพลายใหม่จะหายไปจากตลาดประมาณ 30% เพราะส่วนใหญ่ไม่ต้องการเสี่ยง และใช้เป็นจังหวะระบายสต็อกแทน
“ปีนี้เป็นปีพักฐานสำหรับตลาดคอนโดฯ แน่นอน ซัพพลายลงไป 70% คอนโดฯ เปิดใหม่น้อยลง หรือ เปิดก็อาจขายได้ไม่ดี มองคงอยู่ในภาวะแบบนี้ 2 ปี ก่อนดีขึ้นในปี 2565 อย่างไรก็ตาม มองอีกแง่ จะช่วยให้ราคาตลาดกลับสู่จุดสมดุลที่เหมาะสมได้ นอกจากนี้ ปีนี้ที่ยังเห็นมีโครงการเปิดใหม่อยู่บ้าง เป็นเพราะมีที่ดินติดมือกันมา บางค่ายไม่รู้จะทำอะไร แต่ปีหน้ายังมองไม่เห็นภาพ เพราะไม่เห็นการซื้อใหม่เกิดขึ้น อีกประการคือ โควิดทำให้คนล้มละลายมากกว่าคนเสียชีวิตด้วยซ้ำ แต่ราคาที่ดินกลับไม่ลดลงเลย สวนทางภาวะเศรษฐกิจอยู่มาก” นายไตเตชะ กล่าว
Comments